สาเหตุที่ Public Cloud ได้รับความนิยมมีหลายปัจจัย นอกเหนือจากตัวเลือกทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องมือด้าน Security อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาความท้าทายของ Security ที่เกิดขึ้นก็คือข้อจำกัดของเครื่องมือที่ไม่สามารถก้าวออกนอกแพลตฟอร์มได้ ด้วยเหตุนี้เองผู้ทำงานด้านความมั่นคงปลอดภัยจึงต้องรับบทหนักเพิ่มขึ้นจากแนวทาง Multi-cloud ด้วย
การใช้งาน Local Cloud เป็นทางเลือกที่น่าสนใจของหลายองค์กรจากประเด็นเรื่องของค่าใช้จ่ายและระยะทางของข้อมูล ไปจนถึงข้อกังวลที่ต้องการให้ข้อมูลอยู่ในประเทศต้นทาง ด้วยเหตุนี้เอง AIS จึงมุ่งเน้นพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์นั้้น ซึ่งความก้าวหน้าสำคัญคือ AIS ได้ร่วมมือกับนานาพันธมิตรระดับโลกที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการให้บริการ Cloud ภายในประเทศตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรภายใต้ชื่อ AIS Cloud X ในวันนี้เราขอพาทุกท่านไปรู้จักกับอีกหนึ่งโซลูชันจากความร่วมมือนี้ที่ชื่อว่า Defender for Cloud
รู้จักกับ Microsoft Defender for Cloud
credit : Microsoft
Microsoft Defender for Cloudเป็นโซลูชันด้าน Cloud-native Application Platform (CNAPP) หรือสิ่งที่ช่วยให้แอปพลิเคชันที่เกิดขึ้นท่ามกลางคลาวด์มีความมั่นคงปลอดภัย โดยช่วยปกป้องในเรื่องภัยคุกคามและช่องโหว่ ทั้งนี้ภายในประกอบไปด้วยโซลูชันย่อยอีกมากมายที่ครอบคลุมใน 3 เรื่องหลักคือ
1.) DevSecOps
การป้องกันแอปพลิเคชันที่ดีที่สุดคือการเริ่มคิดเรื่อง Security ให้เร็วที่สุด ซึ่งนั่นก็คือควรใส่ใจตั้งแต่ระดับโค้ด ทั้งนี้ภายใต้ Defender for Cloud องค์กรสามารถมองหาสิ่งที่เรียกว่า Defender for DevOps ด้วยความสามารถ ช่วยดูแลการใช้งาน Infrastructure as a Code(IaC) หรือการเปิดเผยถึง Secret ต่างๆ นอกจากนี้ Microsoft ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ DevOps คุ้นเคยกันดีอย่าง GitHub หรือ Azure DevOps ที่ต่างมีฟีเจอร์เรื่องความมั่นคงปลอดภัยเป็นของตนเองอยู่แล้ว
2.) Cloud security posture management (CSPM)
การตั้งค่าการทำงานของบริการคลาวด์หรือการใช้งานคลาวด์อย่างไม่เหมาะสมหรือผิดพลาด (Misconfiguration) ยังคงเป็นหัวข้อหลักในมุมของ Cloud Security ซึ่งอาจด้วยความเลินเล่อ การขาดทักษะ หรือเหตุผลอื่นใด แต่ผลลัพธ์ที่จะตามมาอาจร้ายแรงกว่าที่คิด ยิ่งในยุคที่องค์กรเต็มไปด้วยความซับซ้อนจาก Multi-cloud และบริการมากมายที่เปิดใช้อยู่ ทั้งที่รับรู้หรือหลงลืมไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดโซลูชันที่ช่วยในการกำกับการทำงานกับคลาวด์ที่เรียกว่า CSPM โดยความสามารถที่ Microsoft นำเสนอภายใต้ Defender for Cloud มีอยู่หลายด้านคือ
3.) Cloud workload protections (CWP)
Workload ที่เกิดขึ้นบนคลาวด์บีบคั้นให้โซลูชันแบบเดิมก้าวไปสู่ขีดจำกัด เนื่องจากไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Workload ใหม่ เช่น Container ที่เกิดขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว หรือฐานข้อมูลในลักษณะของ PaaS เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เองการมีโซลูชันที่คิดใหม่เพื่อ Workload บนคลาวด์อย่างแท้จริงจึงเป็นเรื่องจำเป็น หากพูดถึงเรื่อง Cloud-native โดยภายใน Defender for Cloud จะประกอบไปด้วยหลายความสามารถ ในที่นี้เราขอหยิบยกโซลูชันยอดนิยม 3 เรื่อง มาให้ท่านได้รู้จักดังนี้
1.) Defender for Serverเป็นโซลูชันหลักที่ช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับเซิร์ฟเวอร์ โดยรองรับได้หลายแพลตฟอร์มประกอบด้วย Windows Server, Red Hat Enterprise Linux(RHEL), CentOS, Ubuntu, SUSE, Oracle Linux และ Amazon Linux ทั้งนี้เมื่อร่วมมือกับ Defender for Endpoint (EDR) ที่อยู่ภายใต้ Defender for Cloud ก็จะช่วยให้องค์กรสามารถสั่งตอบสนองการบุกรุกหรือเหตุการณ์ได้อย่างเด็ดขาดและทันท่วงที ฟีเจอร์ของ Defender for Server มีดังนี้
2.) Defender for Containerอย่างที่ทราบดีแล้วว่าปัญหาของ Container คือการเกิดขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว จึงติดตามได้ยากจากเครื่องมือแบบเก่า ประกอบกับ Runtime ที่ซับซ้อน ทั้งนี้การใช้สร้าง Kubernetes ขึ้นมาเอง อาจนำไปสู่ปัญหาด้านความมั่นคงปลอดได้หลายจุด เช่น ให้สิทธิ์การเข้าถึงที่มากเกินพอดี ตัวอิมเมจเองมีช่องโหว่ ตั้งค่าสภาพแวดล้อมอย่างผิดพลาด หรือคนร้ายอาจเข้ามาผ่านทางระดับแอปพลิเคชันหรือโหนด ด้วยเหตุนี้เอง Defender for Container จาก Microsoft นำเสนอการป้องกันเช่น
Credit : Microsoft
3.) Defender for Databaseการป้องกันฐานข้อมูลถือเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายที่ทุกองค์กรต้องใส่ใจ อีกทั้งปัจจุบันฐานข้อมูลยังกระจัดกระจายในหลายรูปแบบทั้ง PaaS, IaaS หรือ On-prem ซึ่ง Defender for Database พร้อมให้บริการครอบคลุมหลายสถานการณ์เช่น IaaS, Open-source และ PaaS พร้อมการปกป้องกันในหลายระดับคือ
Credit : Microsoft
นี่เป็นเพียงโซลูชันส่วนหนึ่งภายใต้ Defender for Cloud เท่านั้น ยังไม่นับรวม Defender for Storage, App Service, Key Vault, Resource Manager, DNS และอื่นๆ อย่างไรก็ดีหัวใจสำคัญของโซลูชัน Defender for Cloud มีเพียง 3 เรื่องคือ 1.) ช่วยให้ท่านสามารถควบคุมการเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างมั่นใจ 2.) กำหนดการใช้งานให้เป็นไปตามข้อบังคับ (Compliance) และอย่างมั่นมั่นคงปลอดภัย 3.) ปกป้องภัยคุกคามและปิดช่องโหว่ให้ Workload นั้นๆ มาถึงตรงนี้เรายังไม่ไปถึงคำตอบที่ว่าแล้วความสามารถระดับ Public Cloud นี้จะมาถึงมือลูกค้าของ AIS Cloud X ซึ่งเป็นคลาวด์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทยได้อย่างไร คำตอบอยู่ในหัวข้อต่อไปแล้วครับ
AIS Cloud X พร้อมปกป้องคุณด้วยความมั่นใจจาก Microsoft Defender for Cloud
ไอเดียของ AIS Cloud X ก็คือการยกระดับนวัตกรรมในการให้บริการคลาวด์ภายในประเทศให้มีศักยภาพและคุณภาพใกล้เคียงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า Public Cloud โดยกลยุทธ์สำคัญก็คือการสร้างพันธมิตรมากมาย ซึ่งหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของ AIS ก็คือ Microsoft โดยจิ๊กซอว์ที่ได้ถูกนำมาประสานรอยต่อระหว่าง Public Cloud และ AIS Cloud X คือโซลูชันที่ชื่อว่า Azure Arc นั่นเอง
Azure Arc เป็นโซลูชันที่ครอบคลุมการบริหารจัดการ Multi-cloud ทำให้ใช้เครื่องมือตัวเดียวจัดการทรัพยากรที่อยู่ในสภาพแวดล้อมต่างๆได้ เช่น การจัดการ VM, SQL Server, Container, Azure Data Service และอื่นๆ ซึ่งไอเดียคือ Azure Arc ก็สามารถบริหารจัดการทรัพยากรบน AIS Cloud X ได้เช่นกัน รวมถึงนำมาซึ่ง Microsoft Defender for Cloud ที่เกิดขึ้นบน Cloud X ได้ด้วยเช่นกัน
Credit : Microsoft
อย่างไรก็ดีในมุมของ Microsoft Defender for Cloud ยังรองรับการใช้งานอื่นๆอย่างครอบคลุมทั้งบน On-premise, Multi-cloud, Hybrid Cloud หรือ Local Cloud เช่น AIS Cloud X ซึ่งมีความร่วมมือกับ Microsoft ที่สามารถให้บริการ IaaS, Container หรือ PaaS ในส่วนของ SQL และในอนาคต AIS จะค่อยๆเพิ่มความสามารถการให้บริการมากขึ้นเช่น Application Service เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ใช้งาน Defender for Cloud ที่อยู่บน AIS Cloud X จะได้รับประสบการณ์เดียวกันกับ Public Cloud ใดๆ โดยท่านที่มี License สามารถปกป้องทั้งเครื่องที่อยู่ทั้งใน Azure หรือ Cloud X ควบคู่กันได้
โดยพื้นฐานแล้วองค์กรที่เลือกใช้งาน AIS Cloud จะได้รับประโยชน์หลายด้านทั้งเรื่อง ประโยชน์ทางภาษี ความมั่นใจที่ไม่ต้องนำข้อมูลออกต่างประเทศ ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเครือข่าย อีกทั้งมีทีมดูแลเป็นคนไทยสะดวกต่อการสื่อสาร ที่สำคัญ AIS Cloud ยังมีดาต้าเซนเตอร์ที่ครอบคลุมพร้อมให้บริการทั่วทุกภาคของประเทศไทย
สำหรับผู้สนใจในเงื่อนไขการใช้งานเกี่ยว Defender for Cloud หรือบริการของ Microsoft Azure บน AIS Cloud X สามารถติดต่อทาง AIS Business ได้ทันที โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ AIS Business Cloudbusiness.ais.co.th/cloud
วันที่เผยแพร่ 18 กรกฎาคม 2566
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business
สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที