สำหรับธุรกิจ Startup การระดมทุนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะกว่าจะมีก้าวแรกที่สวยงามนั้น ต้องอาศัยเงินทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด แต่การจะขอเงินก้อนใหญ่จากคนคนหนึ่งเป็นเรื่องยาก หากลองเปลี่ยนมายืมจากหลายๆ คน คนละนิดคนละหน่อยอาจจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่า แล้ววิธีคิดของการระดมทุนแบบ ‘Crowdfunding’ คืออะไร ซึ่ง Crowdfunding มาจากคำว่า Crowd ที่แปลว่า ฝูงชน และ Funding ที่หมายถึงการระดมทุน เมื่อรวมกันแล้วจึงมีความหมายว่า ‘การระดมทุนจากกลุ่มคนหลายกลุ่มคน’ ซึ่งการระดมทุนผ่านตัวกลางหรือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ระดมทุนกับนักลงทุนได้มาเจอกัน ทำให้การหาเงินทุนก้อนใหญ่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นนั่นเอง
ก่อนจะมาเรียนรู้วิธีระดมทุนจำนวนมหาศาล ในเวลาเพียง 30 วันได้นั้น เรามาลองทำความรู้จักกับคำว่า ‘Crowdfunding’ กันก่อนดีกว่า ว่าจะมีความหมายและวิธีการอย่างไรบ้าง ?
‘Crowdfunding’ คือ การระดมทุนจากบุคคลทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ญาติ หรือเพื่อน และกระจายต่อไปยังคนรอบข้าง โดยอินเตอร์เน็ตหรือคำบอกเล่าต่างๆ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือเหล่า Startup Thailand เริ่มต้น ที่ต้องการเงินทุนจำนวนหนึ่ง เพื่อไปดำเนินกิจการนั่นเอง และผู้ที่ลงทุนจะได้ผลตอบแทนที่เป็นรูปแบบต่างๆ อย่าง ดอกเบี้ย เงินปันผล หุ้น หรือ ผลิตภัณฑ์ ซึ่งการระดมทุนแบบ Crowdfunding นี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มทุนขนาดใหญ่ (Venture Capital) ได้ และแนวคิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะใน เขต Silicon Valley ที่สหรัฐอเมริกา
การระดมทุนสาธารณะ หรือ Crowdfunding กลายเป็นทางเลือกสำคัญที่น่าสนใจ บริษัท Startup ในไทย หรือคนที่อยากเริ่มต้นเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ แต่ยังขาดเงินลงทุน รวมถึงต้องการสำรวจตลาดและกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจไปพร้อมๆ กัน โดยการโปรโมทโครงการหรือธุรกิจ เพื่อเปิดรับการระดมทุนสาธารณะบนแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ที่เป็นตัวกลางในการช่วยระดมทุน ซึ่งการระดมทุนสาธารณะที่เราคุ้นเคยกันดี มีอะไรบ้าง โดยหลักๆ แล้วจะมี 4 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้
Reward-based Crowdfunding : หากผู้สนับสนุนช่วยกันระดมทุนให้แก่โครงการได้สำเร็จ หรือถึงเป้าที่กำหนด ผู้สนับสนุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ตอบแทนกลับไป เช่น ได้รับสินค้าหรือบริการจากโครงการเป็นกลุ่มแรก
เป็นต้น
Donation-based Crowdfunding : การระดมทุนในรูปแบบการขอรับบริจาค เพื่อนำทุนไปใช้ตามวัตถุประสงค์โครงการ และผู้สนับสนุนทุนจะไม่ได้รับสิ่งใดเป็นผลตอบแทน
Equity-based Crowdfunding : การระดมทุนด้วยการ “เข้าหุ้น” คือ ผู้สนับสนุนทุนจะได้ถือครองหุ้นของโครงการนั้นๆ ด้วยสัดส่วนตามที่ตกลงกันไว้ พร้อมโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์จากกิจการในอนาคตด้วย
Lending-based Crowdfunding หรือ Peer-to-Peer Lending : การระดมทุนผ่านการกู้ยืมเงินทุนจากผู้สนับสนุน โดยกำหนดระยะเวลาในการชำระเงินคืนและจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ผู้สนับสนุน
หลังจากที่เราได้รู้จักคำว่า ‘Crowdfunding’ กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะได้เริ่มเรียนรู้วิธีการระดมทุนในระยะเวลาสั้นๆ ที่สามารถกอบโกยเงินทุนจากผู้ให้ทุนเป็นจำนวนมากได้ เพียงแค่จับจุดและเลือกนำวิธีที่ AIS The StartUp นำมาฝากอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองก็จะสามารถใช้เวลาเพียง 30 วัน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอนาคตได้ จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปดูกัน
สิ่งแรกคือ สตาร์ทอัพจะต้องแน่ใจและเชื่อมั่นว่าธุรกิจของคุณพร้อมสำหรับการระดมทุนหรือไม่ โดยการสำรวจธุรกิจตัวเองว่า
- มีแพลตฟอร์มรองรับการระดมทุนแบบ ‘Crowdfunding’ หรือเปล่า
- มีแผนเพื่อพัฒนาให้ธุรกิจสามารถต่อยอดไปถึงจุดสูงสุดหรือไม่
- ทีมงานทุกคนมีความพร้อมและแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญอุปสรรคได้แค่ไหน หรือพูดง่ายๆ ว่าหลักประกันความสามัคคีกันในทีมนั่นเอง
ทั้ง 3 อย่างนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้นายทุนเชื่อมั่นในธุรกิจสตาร์ทอัพ ว่าจะสามารถสร้างผลประโยชน์กับพวกเขาได้
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญหรือหัวใจหลักของการระดมทุนคือ ‘ผลิตภัณฑ์’ กลับไปทบทวนว่าผลิตภัณฑ์ของคุณ เป็นที่ต้องการในท้องตลาดหรือไม่ จะสามารถทำกำไรได้แค่ไหน เพราะสิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักลงทุนต้องการเห็น หากมีตัวเลขที่บ่งบอกถึงรายได้เป็นกอบเป็นกำได้
หรือกระบวนการขายที่กำลังเติบโต อย่างรายชื่อพาร์ทเนอร์ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะเมื่อธุรกิจของคุณเข้าใกล้จุดคุ้มทุนเมื่อใด จะทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าเงินของพวกเขาจะปลอดภัยเมื่อนำมาลงทุนกับธุรกิจของคุณ
ทุกวันนี้เทคโนโลยีในการผลิตสื่อ (Media) มีอยู่รอบตัว และต้องยอมรับว่าการสร้างสื่อไม่ว่าจะการเขียน ภาพนิ่งหรือวิดีโอ ที่น่าเชื่อถือ สามารถอธิบายเรื่องราวยากๆ ให้เข้าใจง่ายได้ นอกจากจะประหยัดเวลาแล้วยังแสดงถึงความตั้งใจที่จะอธิบายสิ่งที่ธุรกิจของคุณกำลังทำอยู่ และบ่งบอกถึงผลลัพธ์ว่าทำไมผู้คนถึงควรลงทุนกับสตาร์ทอัพของคุณ หลายคนอาจมองว่าการทำสื่อรูปแบบนี้ควรทุ่มทุนไปกับการนำเสนอให้ผู้ใช้งานมากกว่า แต่ความจริงแล้วมันคือจุดเริ่มต้นของการนำเสนอศักยภาพของสตาร์ทอัพแก่สายตานักลงทุน ว่าธุรกิจของคุณทำอะไรได้บ้าง? นอกจากเพื่อการขยายโอกาสให้กับสตาร์ทอัพเองแล้ว ยังสามารถ pitching นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย นี่คือเหตุผลที่ควรผลิตสื่อเพื่อเอาชนะใจนักลงทุนตั้งแต่หมัดแรก อย่าลืมว่าไม่ใช่แค่คุณที่ต้องการเป็นสตาร์ทอัพเพียงบริษัทเดียว และจะต้องมั่นใจว่าคุณจะเป็นธุรกิจที่ชนะในการระดมทุนครั้งนี้
เป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนทุกคนต้องมีการติดตามและคัดเลือกสตาร์ทอัพที่เข้าตาไว้ในใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในการระดมทุนแต่ละครั้ง ควรมีการวางแผนหรือคิดแพลตฟอร์ม crowdfunding เอาไว้ล่วงหน้า เพื่อแสดงถึงความพร้อมและดึงดูดความสนใจตั้งแต่เริ่มต้น หากก้าวแรกคุณเตรียมตัวและวางแผนเอาไว้อย่างดี สิ่งนี้จะนำไปสู่การดึงดูดนักลงทุนมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ถึงแม้การระดมทุนจะจบลง แต่ภารกิจของคุณจะไม่ ‘จบสิ้น’ เพราะหัวใจสำคัญของการระดมทุนคือการนำเงินทุนมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในดียิ่งขึ้น ฉะนั้นการพยายามอย่างหนักเพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ก็คือการปรับปรุงในสิ่งที่ผิดพลาด จงอย่าลืมว่าจุดมุ่งหมายของคุณคือการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจให้เติบโตขึ้นในอนาคต และทำให้เห็นว่าธุรกิจ Startup ของคุณเข้ามาพัฒนาชีวิตผู้คนได้อย่างไร ผนวกเข้ากับการหมั่นทำการตลาดให้ผู้คนรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ของคุณ (Brand Awareness) ว่ามีความสำคัญและมีการทำงานอย่างไร? ทั้งหมดนี้จะสามารถดึงดูดนักลงทุนเข้ามามหาศาลในอนาคตอย่างแน่นอน
วิธีการระดมทุนแบบ Crowdfunding ในระยะเวลาอันสั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดความตั้งใจและความสามัคคีกันในทีม เพราะสิ่งเหล่านี้ประกอบไปด้วยองค์ประกอบของใจที่รักในสิ่งที่ลงมือทำ และความพยายามในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ธุรกิจสตาร์ทอัพของคุณเดินทางไปสู่ฝั่งฝันอย่างสวยงาม ซึ่งก้าวแรกจะออกเดินทางได้สง่างาม ล้วนต้องอาศัยเงินทุนไม่มากก็น้อย สำหรับสตาร์ทอัพที่กำลังหมดหวังลองใช้วิธีระดมทุนเหล่านี้ เพื่อเป็นแสงนำทางสู่การเป็นสตาร์ทอัพที่ทรงคุณค่าจนนักลงทุนต่างปรารถนาจะได้ร่วมงานกัน AIS The StartUp ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้สตาร์ทอัพที่มีความฝัน มุ่งมั่น และลงมือทำ
หากใครที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครับ AIS The StartUp สามารถส่งผลงานได้ที่ http://www.ais.th/thestartup/connect.html
บทความโดย
AIS The StartUp