ในยุคธุรกิจ 5G แบบนี้เรียกได้ว่าธุรกิจออนไลน์มีการเติบโตและแข่งขันกันอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง โดยเฉพาะStartup Thailand Focusที่เน้นแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันผู้คนผ่าน ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่าง ๆ การมีช่องทางการขายมากกว่าหนึ่งแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Social Media, Market place หรือ Website จึงเป็นเหมือนไพ่ใบสำคัญที่จะมาช่วยเสริมให้ธุรกิจ เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่ง E-Commerce Channel เป็นตลาดยอดฮิตที่ทั้ง SMEs, Enterprise และ Startup ไม่พลาดที่จะเข้ามาช่วงชิงพื้นที่ส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การขายของ รวมไปถึงมีมูลค่าในการซื้อขายมากขึ้นทุกปี เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ บวกกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างในปี 2021 ที่ผ่านมานั้นจากรายงานของ Google, Temasek และ Bain & Company นักช้อปไทยมีการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลสูงสุดในภูมิภาค ถึง 89.99%
เมื่อช่องทางการขายในมือของเรามีมากกว่าหนึ่ง กลุ่มลูกค้ารวมไปถึงวิธีบริหารจัดการของแต่ละแพลตฟอร์มก็แตกต่างตามไปด้วย แล้วเราจะทำอย่างไรให้ธุรกิจของเราไปได้ไกล ทำกำไรแบบมือโปร AIS The StartUp รวบรวมมาให้คุณแล้ว !
E-Commerce แพลตฟอร์มไหนที่เหมาะกับธุรกิจของเรา
ก่อนจะพาทุกคนไปดูเทคนิคบริหารจัดการขายในแต่ละช่องทาง เราขอพาทุกคนไปดู Pros & Cons ของแพลตฟอร์มหน้าร้านบนโลกออนไลน์ อย่าง Website, E-Marketplace และ Social Commerce กัน !
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเราเลือกแพลตฟร์อมไหน ก็ดูเหมือนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ ค่าธรรมเนียม/ค่าคอมมิชชัน/ค่าโฆษณา เพิ่มมากขึ้นทุกปี เรามีข้อแนะนำเบื้องต้นที่จะช่วยคงกำไรการขาย ไม่ให้สลายไปตามการเปลี่ยนแปลงมาฝากด้วย
นั่นก็คือ “การตั้งงบทางการตลาด โดยเผื่อ Budget เอาไว้ 30%”
ยกตัวอย่างเช่น ปี 2022 เราจัดตั้งงบทางการตลาดเอาไว้ 100% แล้วบวกเพิ่มเข้าไปอีก 30% ทำให้ในปี 2022 เราจะมีงบสำหรับการใช้จ่ายค่าธรรมเนียม/ค่าคอมมิชชัน/ค่าโฆษณากลายเป็น 130% นอกจากนี้ยังต้องติดตาม เก็บข้อมูลและปรับปรุงงบทางการตลาดอยู่เสมอ โดยคำนึงถึง
ช่องทางการขายเยอะ ปัญหาที่ต้องจัดการก็เพิ่มขึ้นตาม
แน่นอนว่าการที่ Startup Thailand จะเติบโตได้ ก็ต้องมีการพึ่งพาในช่องทางที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้มองเห็นแบรนด์และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อ แต่ยิ่งเรามีช่องทางเยอะ ต้นทุนการจัดการก็สูงขึ้นตาม ไม่เพียงแค่การรับมือกับค่าธรรมเนียม/ค่าคอมมิชชัน/ค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้น
จัดการระบบทุกช่องทางการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพาคุณก้าวไปสู่
ความสำเร็จด้วย “DATA Driven & Digital Transfomation”
DATA Driven การขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปได้ไกลในยุคดิจิทัล ต้องรู้จักโฟกัส “ข้อมูล” ที่เรามีอยู่ในมือ ซึ่งถ้าเราสามารถรวบรวมข้อมูลมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค แล้วนำไปต่อยอดเป็นการพัฒนาสินค้าและบริการ ไปจนถึงการวางแผน ธุรกิจในอนาคต อีกทั้งยังช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ พร้อม Up Selling และ Cross Selling ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Digital Transfomation ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เริ่มต้นจากการสังเกตขั้นตอนในธุรกิจของเราว่าจุดไหนที่มีการทำซ้ำเดิมในทุก ๆ วัน แล้วนำเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันเข้าไปเป็นเครื่องมือในการช่วยลดข้อผิดพลาดอย่าง Human Error ช่วยลดงาน Operation ของพนักงานเดิม เพิ่มความคล่องตัวและเสริมประสิทธิภาพการทำงานได้
การนำสินค้ามาขายคู่กับการใช้เทคโนโลยีสำหรับบริหารจัดการ สามารถทำให้ Startup Thailand Focus และ SMEs ลงสนามแข่งขันกับ Enterprise และสร้างยอดขายให้เติบโต พร้อมทั้งเสริมให้ธุรกิจคุณเดินหน้าต่อได้อย่างมืออาชีพ ! สำหรับใครที่สนใจเครื่องมือบริหารทุกช่องทางการขายได้แบบครบวงจร ขอแนะนำหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของ AIS The StartUp อย่าง ZORT รายละเอียดเพิ่มเติม www.zortout.com หากใครที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครับ AIS The StartUp สามารถส่งผลงานได้ที่ http://www.ais.th/thestartup/connect.html
อ้างอิงข้อมูลจาก AIS SME วันที่ 1 มิถุนายน 2565 - พลิกธุรกิจ พิชิตกำไร ด้วยเทคนิคจัดการการขายหลายช่องทางแบบมือโปร โดยคุณสืบพงศ์ ภาสเวคิน Head of Customer Success (ZORT)