รวมทุกประสบการณ์ให้ชีวิตไม่มีสะดุดด้วย เทคโนโลยี 5G

ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกเรามาสักพักใหญ่อย่างมหาศาลในตอนนี้ คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก เทคโนโลยี 5G หรือเครือข่ายไร้สายรุ่นที่ 5 ที่มาพร้อมความเร็วและประสิทธิภาพสุดยอดในการรับส่งข้อมูล แล้วเทคโนโลยี 5G นี่มันเจ๋งยังไง? ใช้ทำอะไรได้บ้าง? และมันจะเปลี่ยนชีวิตเราได้อย่างไร? มาทำความรู้จักกันเพิ่มเติมกันเลยดีกว่า!

 เทคโนโลยี 5G คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ?

5G (5^th Generation Mobile Networks) คือ เครือข่ายสื่อสารเคลื่อนที่รุ่นที่ 5 ที่ทำงานบนคลื่นความถี่ใหม่ รองรับการเชื่อมต่อที่เน้นความเร็วสูง สุดลื่นไหล ใช้งานได้ไม่มีสะดุด มีประสิทธิภาพมากกว่าเครือข่าย 4G หลายเท่า ไม่ว่าคุณจะใช้งานในภาคธุรกิจหรือชีวิตประจำวันก็ไม่ใช่ปัญหา

ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G แบบเข้าใจง่ายๆ

• รับส่งข้อมูลเร็วกว่าเดิมมาก: เพราะ 5G รองรับความเร็วได้สูงสุดถึง 20 Gbps สามารถโหลดวิดีโอหรือแอปฯ ที่มีขนาดใหญ่ หรือข้อมูลหนัก ๆ ก็ใช้เวลาแค่แป๊บเดียว
• ลดความหน่วงให้น้อยลง: เวลาหน่วงของ 5G น้อยกว่า 1 มิลลิวินาที เทียบกับ 4G ที่ 20-70 มิลลิวินาที ทำให้การสื่อสารได้ไวสุด ๆ เช่น เกมออนไลน์ ระบบขับขี่อัตโนมัติ
• รองรับจำนวนผู้เชื่อมต่อได้มากกว่า: เพราะ 5G รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ถึง 1 ล้านเครื่องต่อตารางกิโลเมตร เชื่อมต่ออุปกรณ์เยอะแค่ไหนก็ไม่หวั่น
• เสริมประสิทธิภาพให้เทคโนโลยีอัจฉริยะ: เพราะ 5G มีความเร็วสูงและเวลาตอบสนองต่ำจึงช่วยเรื่องของการประมวลผลข้อมูลได้แม่นยำมากขึ้น ช่วยเสริมให้ศักยภาพของเทคโนโลยี AI และ IoT พัฒนาขึ้นได้อย่างดี

 ตัวอย่างการใช้งาน 5G ที่เห็นได้บ่อยในปัจจุบัน

การนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ปัจจุบันมีความแพร่หลายมากขึ้นหลายแบบ ดังนี้

1. สตรีมมิ่งไม่สะดุดกับวิดีโอคุณภาพสูง
   การสตรีมมิ่งวิดีโอคุณภาพสูงกลายเป็นเรื่องง่ายและสนุกมากขึ้น ด้วย 5G ที่รองรับความเร็วสูงมาก คุณสามารถดูหนัง 4K หรือ 8K ได้แบบไม่สะดุด อรรถรสเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการดูซีรีส์สุดฮิต รายการทีวี หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาสด ๆ ก็ให้ภาพคมชัด ราบรื่น และเต็มอรรถรส
2. เล่นเกมออนไลน์มันส์ได้แบบเรียลไทม์
   คอเกมห้ามพลาด! ด้วยความหน่วงต่ำและความเร็วสูงของ 5G ทำให้การเล่นเกมออนไลน์แบบเรียลไทม์เป็นไปได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ไม่มีการหน่วงระหว่างเล่น ไม่ต้องกลัวพลาดจังหวะสำคัญหรือถูกตัดขาดจากเกมเพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตช้า
3. เชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะได้หลายอย่างพร้อมกัน (Internet of Things)
   การเชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะหลาย ๆ อย่างพร้อมกันกลายเป็นเรื่องง่ายด้วยเทคโนโลยี 5G ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ระบบสมาร์ทโฮม หรือการจัดการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และยานยนต์ไร้คนขับ 5G ทำให้ทุกอย่างเชื่อมต่อ ควบคุมและสั่งการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
4. เทคโนโลยีทางการแพทย์ทางไกล
   5G เพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยีทางการแพทย์ทางไกลได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูลผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ การใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดทางไกล หรือการวิเคราะห์ผลตรวจโดยใช้ AI ทุกอย่างทำได้รวดเร็วและมีความแม่นยำสูง แพทย์สามารถให้คำปรึกษาและรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. Smart Factory โรงงานอัจฉริยะ
   5G กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมด้วยการสร้างโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่สามารถเชื่อมต่อระบบอัตโนมัติ เซนเซอร์ต่างๆ และหุ่นยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความแม่นยำ ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
6. การสื่อสารเสมือนจริง (VR และ AR)
   การสื่อสารและการใช้งานแอปพลิเคชันเสมือนจริง (VR และ AR) ได้รับการยกระดับด้วย 5G ไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางไกลแบบเสมือนจริง การเรียนการสอนออนไลน์ที่ใช้ VR เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่เสมือนจริงมากขึ้น หรือแม้แต่การชอปปิงออนไลน์ที่สามารถลองสินค้าเสมือนจริงก่อนซื้อได้
7. การท่องเที่ยวและการเดินทาง
   การท่องเที่ยวและการเดินทางกลายเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบด้วย 5G นักท่องเที่ยวสามารถใช้งานแอปพลิเคชันนำทางเสมือนจริง การจองที่พักและกิจกรรมท่องเที่ยวได้แบบเรียลไทม์ และสามารถแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว

การใช้งานเทคโนโลยี 5G ในปัจจุบันไม่เพียงแค่ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในหลาย ๆ ด้านเพื่อให้ผู้บริโภคใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วระดับ 5G ได้อย่างไม่มีสะดุด ลื่นไหลในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูสื่อบันเทิง ประชุมออนไลน์ ขายของออนไลน์ และอื่น ๆ ก็รองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AIS เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 5G ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ และ เข้าถึงสัญญาณ 5G ได้อย่างสะดวกสบาย ถ้าคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ 5G ที่ดีที่สุด ก็ควรใช้กับสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G บนเครือข่ายที่ดีที่สุด AIS 5G สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/consumers/store