ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจองค์กรส่วนใหญ่นั้นได้ให้ความสำคัญไปกับการปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสกันเป็นหลัก เพื่อให้ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้ท่ามกลางวิกฤตในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี ในปี 2022 ที่กำลังเป็นช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลกนี้ สิ่งที่ผู้บริหารทางด้าน IT จะต้องกลับมาให้ความสำคัญ คือการยกเครื่องระบบ IT Infrastructure โดยเฉพาะ Network ขององค์กรกันใหม่ ให้รองรับต่อรูปแบบของการทำงานที่เปลี่ยนไป, มีความมั่นคงปลอดภัย, รองรับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้ปรับวิถีการทำงานและการสร้างประสบการณ์ ไปจนถึงปรับรูปแบบการบริหาจัดการระบบเครือข่าย เพื่อให้ผู้ดูแลระบบ IT สามารถรับมือกับเทคโนโลยีที่หลากหลายจำนวนมากทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับโซลูชันทางด้านระบบเครือข่ายภายในองค์กรล่าสุดจาก Cisco และ AIS 5G ที่สามารถนำมาผสานทำงานร่วมกันเพื่อตอบโจทย์การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ในธุรกิจองค์กรกันได้ดังนี้ครับ

5 เทคโนโลยี Network ใหม่ สำหรับใช้ปรับปรุงระบบเครือข่ายองค์กรเพื่อรองรับต่ออนาคต

ในช่วงก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระบบเครือข่ายภายในองค์กรนั้นมักยังเป็นเทคโนโลยีรูปแบบเดิม ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานระหว่างผู้ใช้งานที่เชื่อมต่อไปยังเครื่อง Server ภายใน Data Center ขององค์กรเป็นหลัก

แต่ในปัจจุบัน ระบบ Network ขององค์กรนั้นต้องรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น จากการมาของ Cloud ที่ทำให้ปริมาณทราฟฟิกที่ต้องถูกส่งออกไปยังภายนอกองค์กรมีมากขึ้น, ระบบ Internet of Things (IoT) ที่เข้ามาช่วยปรับธุรกิจสู่การทำงานแบบ Hybrid Working และ Automation ไปจนถึงโครงการในลักษณะของ Smart Building เพื่อปรับพื้นที่ทำงานให้กลายเป็น Touchless Workplace ซึ่งการออกแบบระบบเครือข่ายแบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป แต่ต้องอาศัยแนวคิดของ Software-Defined Networking และ Edge มาใช้มากขึ้น

การออกแบบระบบเครือข่ายแบบใหม่นี้ย่อมต้องมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้เป็นองค์ประกอบ ซึ่ง Cisco และ AIS Business ก็พร้อมนำเสนอโซลูชันล่าสุดด้านระบบเครือข่ายสำหรับใช้งานภายในองค์กรดังนี้

1.Cisco DNA Center: ระบบบริหารจัดการเครือข่ายแบบอัตโนมัติ รองรับทั้งการจัดการด้าน Network และ Security ด้วย Data และ AI

Credit: Cisco

Cisco DNA Center คือระบบบริหารจัดการเครือข่ายล่าสุดจาก Cisco ที่ครอบคลุมการจัดการทั้งในส่วนของ NetOps, SecOps, DevOps และ Internet of Things (IoT) ได้จากศูนย์กลาง โดยมีการผสานใช้งาน AI และ Machine Learning เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการระบบ Network Infrastructure สำคัญขององค์กรเป็นไปได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด

การบริหารจัดการระบบเครือข่ายผ่าน Cisco DNA Center นั้นจะใช้แนวทางแบบ Intent-based ที่ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดผลลัพธ์ของระบบเครือข่ายที่ต้องการได้ จากนั้นระบบจะทำการกำหนดค่าการทำงานของอุปกรณ์เครือข่ายให้เป็นไปตามความต้องการโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ Cisco DNA Center ยังมีความสามารถในการทำ Network Assurance ในการใช้ AI/ML ตรวจสอบความถูกต้องในการทำงานของระบบเครือข่ายและแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัญหา เพื่อให้มั่นใจว่าระบบเครือข่ายนั้นสามารถให้บริการผู้ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพอยู่เสมอ

2.Cisco ISE: ปกป้องระบบเครือข่ายด้วยแนวคิด Zero Trust Network Access รองรับการใช้งานอุปกรณ์ที่หลากหลายและ Edge Computing

Credit: Cisco

Cisco Identity Services Engine หรือ Cisco ISE นี้คือโซลูชันระบ Secure Network Access Control ที่ใช้แนวคิดแบบ Zero-Trust เพื่อปกป้องระบบเครือข่ายจากอุปกรณ์และการเชื่อมต่อที่ไม่น่าเชื่อถือ และเปิดให้ผู้ใช้งานหรืออุปกรณ์ที่ผ่านการยืนยันตัวตนและตรวจสอบแล้วสามารถใช้งานเครือข่ายได้ตามสิทธิ์ที่กำหนด ด้วยความสามารถดังต่อไปนี้

• ตรวจสอบจำแนกประเภทและพฤติกรรมของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้ามายังระบบเครือข่าย
• แบ่งส่วนระบบเครือข่ายด้วย Network Segmentation ลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีต่อเนื่อง
• ยับยั้งและกักกันภัยคุกคามโดยอัตโนมัติ พร้อมดำเนินกระบวนการกำจัดต้นตอของภัยคุกคาม
• บริหารจัดการ Guest Wireless Access ได้อย่างมั่นคงปลอดภัย ช่วยให้การลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเข้าใช้งานเครือข่ายเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
• ปกป้องเครือข่ายแบบมีสายด้วยนโยบายแบบเดียวกับเครือข่ายไร้สาย ลดความเสี่ยงที่จะถูกเข้าถึงระบบเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• บังคับทำ Device Compliance ตามประเภทของอุปกรณ์ เพื่อให้ทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายมีสิทธิ์ใช้งานได้อย่างเหมาะสมและยังมั่นคงปลอดภัย
• ผสานระบบทำงานร่วมกับโซลูชันด้าน Network และ Security ได้
• รองรับนโยบาย BYOD เปิดโอกาสให้ผู้บริหารและพนักงานนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ทำงานได้อย่างมั่นคงปลอดภัย

Cisco ISE นี้สามารถทำงานร่วมกับ Cisco DNA Center เพื่อต่อยอดเป็นโซลูชัน Cisco Software-Defined Access ที่บริหารจัดการเครือข่ายและแบ่งส่วนของผู้ใช้งาน, อุปกรณ์ และแอปพลิเคชันออกจากกันและทำการควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ

3.Cisco Switch: ปรับปรุง Switch ตอบโจทย์ระบบเครือข่ายแบบ Software-Defined, Smart Building และ Cloud Networking

Credit: Cisco

สำหรับระบบ Switch ภายในองค์กร Cisco นั้นมีโซลูชันให้เลือกใช้ตามโจทย์ความต้องการหลากหลาย ได้แก่

• Data Center Switch Cisco Nexus Series สำหรับรองรับ Next-Generation Data Center
• Enterprise Switch Cisco Catalyst Series สำหรับใช้งานในส่วนของ Core, Distribution และ Access
• Cloud-Managed Switch Cisco Meraki ที่บริหารจัดการผ่าน Cloud พร้อมความสามารถหลากหลายภายในอุปกรณ์
• Industrial Ethernet Cisco IE และ Cisco Catalyst IE รุ่นความทนทานสูง พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อพิเศษสำหรับ Industrial Network โดยเฉพาะ
• Small Business Cisco Business Series และ Cisco Catalyst 1000 Series สำหรับการวางระบบเครือข่ายในธุรกิจขนาดเล็ก

4.Cisco Wireless Access Point: อัปเกรด Wireless Access Point รองรับ Workload ที่หลากหลายจากผู้ใช้งาน, IoT และ Edge

Credit: Cisco

วางระบบเครือข่ายไร้สายในองค์กรด้วยโซลูชันจาก Cisco เพื่อรองรับทั้งการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth Low Energy (BLE) สำหรับอุปกรณ์ IoT พร้อมการบริหารจัดการที่หลากหลาย และรุ่นต่างๆ ให้เลือกใช้มากมายได้ตามความเหมาะสม เข้ารหัสข้อมูลทุกการเชื่อมต่อเพื่อความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน

• Wi-Fi 6 Catalyst โซลูชัน Wi-Fi ล่าสุดที่ใช้มาตรฐาน 802.11ax
• Cloud-Managed Wireless Cisco Meraki ที่บริหารจัดการและควบคุมนโยบายการใช้งานเครือข่ายไร้สายได้ถึง Layer 7
• Outdoor Wi-Fi สำหรับการติดตั้งใช้งานเชื่อมต่อ Wi-Fi ภายนอกอาคาร
• Industrial Wi-Fi รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ในโรงงานหรือพื้นที่อุตสาหกรรม ที่ต้องการความทนทานของอุปกรณ์มากเป็นพิเศษ
• Small Business โซลูชัน Wi-Fi สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

5.AIS 5G for Business: เสริมเทคโนโลยี 5G เชื่อมต่อเครือข่ายได้ทั่วถึงทั้งองค์กร รองรับการทำ Automation สำหรับทุกอุตสาหกรรม

นอกเหนือจากระบบเครือข่ายภายในองค์กรแบบดั้งเดิมแล้ว ระบบโครงข่าย 5G เองก็กำลังกลายเป็นอีกส่วนประกอบสำคัญภายในระบบเครือข่ายขององค์กร ที่จะมาช่วยเติมเต็มด้านการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายสำหรับระบบงานในหลากหลายรูปแบบ ด้วยโซลูชัน AIS 5G for Business ดังนี้

• AIS 5G FWA: โซลูชัน 5G Fixed Wireless Access เชื่อมต่อเครือข่าย Internet สำหรับองค์กรผ่านระบบเครือข่าย 5G ความเร็วสูง ทำให้รองรับการเชื่อมสัญญาณไปยังพื้นที่ที่ไม่สามารถเดินสายเชื่อมต่อเครือข่ายได้อย่างง่ายดาย
• AIS 5G FWA+: โซลูชัน 5G Fixed Wireless Access แบบ Private ที่แยกช่องการส่งสัญญาณออกมาเป็นส่วนตัว เพื่อประสิทธิภาพและการตอบสนองในระดับที่ดียิ่งขึ้น
• AIS 5G MEC: โซลูชัน Multi-Access Edge Computing ผ่านเครือข่าย 5G เพื่อให้องค์กรสามารถเริ่มต้นใช้งาน Edge Computing ของ AIS ภายในโครงข่าย 5G สำหรับรับส่งข้อมูลและประมวลผลข้อมูลจากอุปกรณ์ในโครงข่ายได้ด้วยความเร็วสูง
• AIS 5G Private Network: โซลูชันสร้างเครือข่าย 5G Private สำหรับใช้งานในองค์กร รองรับการเชื่อมต่อเพื่อรองรับ Workload ในรูปแบบต่างๆ ได้ตามต้องการ พร้อมเชื่อมต่อไปยัง MEC ได้ทันที
• AIS 5G Security Platform: โซลูชัน SD-WAN Firewall, Managed SASE, AIS CSOC และ Cloud Security ที่ถูกนำมาให้บริการร่วมกับโซลูชัน 5G เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถใช้งาน 5G ในงานรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ
• AIS 5G Horizontal Applications: โซลูชันต่างๆ ทางด้าน AR, VR, Drone, Robotics, Machine Vision, Digital Signage, Remote Supervision, Camera 360 สำหรับให้ธุรกิจนำมาเริ่มต้นใช้งานบน 5G ได้ทันที
• AIS 5G Vertical Solutions: โซลูชัน 5G สำหรับตอบโจทย์เฉพาะทางในแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ เลือกนำไปใช้งานได้ตามต้องการ

ตอบทุกโจทย์การทำงานในยุค NOW Normal ด้วยโซลูชัน 5G Hybrid Workplace ครบวงจรจาก Cisco และ AIS Business

AIS Business นั้นได้ร่วมมือกับ Cisco ในการผลักดันโซลูชัน 5G Hybrid Workplace ในแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ทั้งประเด็นด้านการสื่อสารทำงาน, การปรับปรุงพื้นที่ทำงาน และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการทำงาน พร้อมผสานเทคโนโลยี 5G เพื่อรองรับนวัตกรรมและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้ธุรกิจองค์กรสามารถปรับเปลี่ยนสู่การทำงานรูปแบบใหม่ได้อย่างเต็มตัว ดังนี้

1. Transform Workplace เปลี่ยนรูปแบบการทำงานสู่ประสบการณ์ Hybrid Workplace ติดต่อสื่อสารประชุมงานได้จากทุกที่ทุกเวลาอย่างมั่นคงปลอดภัย ด้วย Cisco Webex ที่ครอบคลุมการใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์, ห้องประชุม และทุกพื้นที่ทำงาน พร้อมโครงข่าย 5G ความเร็วสูงจาก AIS ที่จะส่งมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ดีไม่ว่าจะทำงานจากที่ใด
2. Transform Network เปลี่ยนออฟฟิศขององค์กรให้กลายเป็นออฟฟิศอัจฉริยะที่มีระบบเครือข่าย LAN, Wireless LAN, WAN และ VPN ที่พร้อมรองรับนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างเช่น IoT, Automation, Edge และ AI เพื่อให้ทุกการทำงานเป็นไปได้แบบ Touchless พร้อมการประยุกต์ใช้ 5G เพื่อสร้าง Smart Office และ Smart Building ที่มีระบบเครือข่ายรองรับการใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างทั่วถึง
3. Transform Security เปลี่ยนแนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการทำงานให้ครอบคลุมทั้งการทำงานจากภายในและภายนอกองค์กร ช่วยให้ทุกการทำงานเป็นไปได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะเชื่อมต่อเครือข่ายจากภายในองค์กร, จากที่บ้าน หรือจาก 5G ที่มีความมั่นคงปลอดภัยในระดับสูงสุด

สนใจบริการ AIS Hybrid Workplace โซลูชันและผลิตภัณฑ์ของ Cisco ติดต่อทีมงาน AIS Business ได้ทันที

วันที่เผยแพร่ 27 ธันวาคม 2564