ในโลกธุรกิจยุคนี้ บริษัทไหนที่ใช้ “ข้อมูล” ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบในทันที เพราะข้อมูลต่าง ๆ เป็นเสมือนสารตั้งต้นทางความคิด ที่ใช้สร้างนวัตกรรมสินค้าและบริการต่าง ๆ ให้มาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ในมุมกลับกัน ไม่ใช่แค่ฉลาดในการต่อยอดข้อมูลอย่างเดียว แต่การป้องกันข้อมูลต่าง ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน หรือบางทีอาจสำคัญกว่าการนำไปใช้ด้วยซ้ำ หากย้อนมองกลับไปในอดีต เราได้เห็นหลายบริษัทระดับโลก ถูกคู่แข่งขโมยข้อมูล จนถึงขั้นที่มีข้อมูลลับเฉพาะรั่วไหลไปสู่สาธารณชน สร้างความเสียหายที่ไม่อาจประเมินค่าได้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความจริงของโลกธุรกิจ และจะยังคงอยู่ตลอดไป พอเป็นแบบนี้ เลยทำให้เจ้าของธุรกิจหลายคนไปจนถึงหน่วยงานต่าง ๆ เกิดคำถามว่า.. การจัดเก็บและป้องกันข้อมูล วิธีไหนที่ปลอดภัย และมั่นใจได้?
ตรงนี้เอง ที่ทาง AIS Business ซึ่งเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง VMware ได้นำแนวคิดของ Sovereign Cloud มาเพื่อเป็นมาตรฐานในให้บริการคลาวด์ เพื่อการจัดเก็บและปกป้องข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลมีความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น Sovereign Cloud จะรักษาข้อมูลให้แก่บริษัทต่าง ๆ ได้ดีแค่ไหน ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในอดีต วิธีจัดเก็บข้อมูลของบริษัทต่าง ๆ จะเป็นรูปแบบเอกสาร หรือฮาร์ดดิสก์ในคอมพิวเตอร์แต่ ณ ปัจจุบัน หลายบริษัทเลือกจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ใน Cloud computing เพราะนอกจากจัดเก็บข้อมูลได้มหาศาลแล้วนั้น ก็ยังสามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันการระบาดของ covid 19 เมื่อ 2 ปีที่แล้วหลายบริษัท ต่างปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ด้วย Cloud มากขึ้น เลยทำให้แนวโน้มใช้งานข้อมูลบน Cloud เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทีนี้พอข้อมูลมากขึ้น ก็ทำให้เกิดความกังวลต่างๆ เช่น สถานที่จัดเก็บข้อมูล การเข้าถึงและความปลอดภัยข้อมูล เป็นต้น
โดยปัจจุบัน Cloud แบ่งเป็น 2 ระบบหลัก ๆ ที่หลายบริษัทนิยมใช้กัน
ฟังดูเหมือนทุกอย่างจะมีความสมบูรณ์แบบ แต่ในความสมบูรณ์แบบนั้น ก็ยังสร้างความกังวลใจต่อผู้ใช้งานว่า.. แท้จริงแล้ว ข้อมูลที่เรามีอยู่บน Cloud มีความปลอดภัย 100% หรือไม่ ? Sovereign Cloud จึงเกิดมาเพื่อตอบโจทย์ตรงนี้ ด้วยแนวคิดการให้บริการคลาวด์ที่มุ่งเน้นเรื่องเสถียรภาพการเก็บข้อมูล โดยข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยู่ในประเทศไทยภายใต้ข้อกำหนดหรือกฎหมายในไทย ไม่ถูกแทรกแซงจากต่างประเทศ ตรงนี้เองที่ทำให้ระบบถูกออกแบบมาเพื่อเป็นมาตรฐานในการจัดเก็บและปกป้องข้อมูล
ทำให้เจ้าของธุรกิจมั่นใจได้ว่า ข้อมูลจะได้รับการปกป้อง ภายใต้มาตรฐานเรื่องความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูล ที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงการเก็บข้อมูล เป็นการจัดเก็บภายในประเทศไทย และเป็นไปตามข้อกำหนดตามกฎหมายของประเทศไทย โดยจะไม่ถูกควบคุมและแทรกแซงจากต่างประเทศ
โดยข้อมูลทั้งหมดรวมถึง Main Data จะถูกจัดเก็บและปกป้องโดยอ้างอิงตามกฎหมาย ในประเทศไทยไม่ถูกควบคุม และแทรกแซงจากต่างชาติ โดย Sovereign Cloud สามารถติดตั้งในรูปแบบ Hybrid ให้แก่ Cloud ทั้ง 2 ระบบเลยทีเดียว และเมื่อติดตั้งแล้ว ก็น่าจะอยากรู้ว่า Sovereign Cloud มีเทคโนโลยีและระบบการป้องกันข้อมูล ที่จะทำให้ User อย่างเราอุ่นใจได้มากแค่ไหน
โดยจะแบ่งเป็น 5 คุณสมบัติหลัก ๆ ที่เปรียบเสมือนกำแพงอันแข็งแกร่งในการป้องกันข้อมูล
และถ้าถามว่า Sovereign Cloud เหมาะสำหรับธุรกิจอะไร.. ถ้าให้ตอบตรง ๆ ก็น่าจะเกือบทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีปริมาณข้อมูลมหาศาล และมีความละเอียดอ่อนสูง เช่น ธุรกิจการเงิน, โลจิสติกส์, ค้าปลีก, อสังหาฯ, ธุรกิจประกัน, หน่วยงานภาครัฐ การแพทย์ โรงานผลิตสินค้า และอื่น ๆ ที่ต้องการป้องกันทั้งข้อมูลของลูกค้าและข้อมูลของธุรกิจตัวเอง
และระบบ Sovereign Cloud จะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการข้อมูลบน Cloud ได้อย่างมั่นใจ และถูกต้องตามข้อบังคับทางกฎหมายหรือมาตรฐานต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น เพราะถ้าข้อมูลที่สำคัญออกสู่สาธารณชน หรือไปอยู่ในมือของคู่แข่งทางธุรกิจ มันอาจจะสร้างความเสียหายที่ไม่อาจประเมินค่าเป็นตัวเลขได้เลย
จากคุณสมบัติ 5 ข้อด้านบนนี้เอง ที่ทาง AIS Business ซึ่งได้ Verified Sovereign Cloud จากบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง VMware โดยเป็นรายแรกในประเทศไทย และยังเป็นผู้ให้บริการระดับต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงในประเทศเกาหลีใต้ โดยปัจจุบันก็มีหลายบริษัทใช้บริการเพราะด้วยแนวคิดของ Sovereign Cloud ที่เป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งไม่ให้ใครเข้ามาถึงข้อมูลที่มีความสำคัญ และมีความละเอียดอ่อนต่างๆ ของบริษัท ถือเป็นการสร้างความเป็นมาตรฐานของคลาวด์ในการจัดเก็บและปกป้องข้อมูล ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้นในยุคสมัยที่ข้อมูลมีความสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจ
วันที่เผยแพร่ 24 เมษายน 2566
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business
สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที