เพราะว่าในปัจจุบันนั้นการทำธุรกิจค้าขายสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าประเภทใด หรือให้บริการทำอะไรสักอย่างก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มธรุกิจรูปแบบร้านค้าที่เน้นและเริ่มต้นการขายแบบออฟไลน์มาก่อน ซึ่งจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนค่อนข้างมาก และผลกระทบโดยตรงกับทางร้านค้าก็คือ “ยอดขายที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง” เพราะผู้คนซื้อของที่หน้าร้านน้อยลง ต่างไว้ใจและหันไปซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น คนขายของออฟไลน์จะมีวิธีการปรับตัวอย่างไรให้รอดจากสถานการณ์นี้ไปได้ และทำอย่างไรจะพลิกจากวิกฤติมาเป็นโอกาสให้ได้
เปลี่ยน Mindset ว่าทุกอย่างสามารถขายออนไลน์ได้จริง
ปัญหาอย่างหนึ่งของคนขายของเฉพาะหน้าร้านจนชินก็คือ ความเชื่อที่ว่าของบางอย่างนั้นขายออนไลน์ไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น ด้วยระบบโลจิสติกส์สมัยนี้ที่ดีขึ้น ช่วยให้การส่งของทำได้ไวขึ้น และมีต้นทุนการขนส่งถูกลงกว่าเดิมมาก ๆ ทำให้สินค้าทุกอย่างตั้งแต่ของกินเล็ก ๆ จนถึงของใช้ขนาดใหญ่อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องจักร ก็สามารถขายออนไลน์ได้หมดแล้ว ใครที่กำลังคิดว่าสินค้าของคุณทำไม่ได้ ให้เปลี่ยนความคิดเดี๋ยวนี้เลย เพราะไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะพลาดโอกาสในการทำตลาดออนไลน์ด้วยสินค้าคุณภาพของตัวเอง และยิ่งว่าถ้าหากปรับตัวช้าไม่ยอมหันมาเพิ่มช่องทางการขายแบบออนไลน์สักที ก็อาจพลาดเสียโอกาสในการทำตลาดและเสียลูกค้าให้กับคู่แข่งเองได้ง่าย ๆ
เริ่มต้นจาก Platform ออนไลน์พื้นฐานก่อน
สำหรับร้านค้าใดที่กำลังคิดว่าการขายของออนไลน์นั้นยุ่งยาก โดยเฉพาะเรื่องของ Platform ซึ่งอันที่จริงแล้วเราสามารถเริ่มต้นได้จากช่องทางออนไลน์ธรรมดาทั่วไป อย่างเช่น การทำเพจบน Facebook หรือจะเป็นการขายของผ่าน Marketplace ยอดนิยมอย่าง Lazada หรือ Shopee ก่อนก็ได้ สำหรับร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ขอแนะนำให้เริ่มจากการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการขายแบบเดลิเวอรี่จากเจ้าใดเจ้าหนึ่งก่อน แล้วค่อย ๆ ขยายไปใช้ช่องทางที่หลากหลายมากขึ้นในภายหลัง และเมื่อเราได้ลองทำธุรกิจกับ Platform ต่าง ๆ ไปสักระยะหนึ่งแล้ว ก็จะทำให้เห็นถึงโอกาสในการขยายธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนการเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น และอาจสามารถพัฒนาไปถึงการขายสินค้าและบริการของตัวเองผ่านเว็บไซต์ของตัวเองได้ในอนาคต
ลูกค้าใหม่ก็ต้องหา ลูกค้าเก่าก็ต้องรักษาไว้
อย่าคิดว่าการย้ายไปขายของออนไลน์จะสามารถแทนที่ทุกอย่างได้หมด เราจำเป็นที่จะต้องรักษาลูกค้าเก่าไว้ด้วยการรักษามาตรฐานของการขายแบบออฟไลน์เอาไว้ และขยายฐานลูกค้าแบบออนไลน์ด้วยการทำตลาดบนโซเชียลมีเดียเพิ่ม เพื่อให้คนรู้จักเรามากขึ้น และกลายมาเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าของเราในรูปแบบออนไลน์ ด้วยการรักษาฐานลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จะทำให้ธุรกิจสามารถครองตลาดได้มากขึ้น และมีฐานผู้ซื้อที่แข็งแรงกว่า รวมไปถึงว่ายังสามารถนำไปสู่การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลายและสามารถปรับได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าสถานการณ์และเทรนด์ของลูกค้าจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหนก็ตาม
และเมื่อธุรกิจเราสามารถปรับตัวเข้ากับรูปแบบการขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ได้แล้ว สิ่งสำคัญที่จะต้องทำอีกอย่างก็คือ การหาวิธีในการปรับพฤติกรรมของลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ให้ยินดีที่จะซื้อสินค้าของเราทั้งสองรูปแบบตามความสะดวกของลูกค้าในช่วงเวลานั้น ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้เราได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นขาประจำมากขึ้น ลูกค้าเก่าก็ยังอยู่และซื้อสินค้าของเราได้สะดวกขึ้นผ่านระบบออนไลน์ ลูกค้าใหม่ที่เคยสั่งแต่ออนไลน์ก็อยากจะได้รับประสบการณ์การมาเลือกซื้อหรือมาทานที่ร้านแบบออฟไลน์ไปพร้อมกันด้วย วิธีการแบบนี้จะช่วยให้เราสามารถบริหารลูกค้าได้ลงตัวมากขึ้น ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นได้ผ่านทุกช่องทางการขายด้วย
สำหรับท่านใดที่ต้องการทำการตลาดบนออนไลน์ผ่าน Online Media โดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ เรามีทีมที่ปรึกษาและซื้อสื่อออนไลน์ที่มีความชำนาญจาก บริษัท เอดีเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) ด้วย Social Amaze Package ที่ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกสื่อตามต้องการได้อย่างลงตัว เพื่อให้เหมาะกับรูปแบบธุรกิจ โดยทีมงานจะทำการวางแผนการลงสื่อให้กับผู้ลงโฆษณาตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้อง Amaze เพิ่มเติม SME Social Amaze
วันที่เผยแพร่ 26 พฤษภาคม 2565
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business