ที่ผ่านมาเหล่า IT Manager, Network Engineer และผู้ดูแลระบบ IT ในองค์กรอาจจะคุ้นเคยกับภาพของการออกแบบระบบเครือข่ายภายในองค์กรด้วย LAN และ Wireless LAN เป็นหลัก แต่การมาของ 5G นั้นก็ได้สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับการออกแบบระบบเครือข่ายมากมาย
ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับเทคโนโลยี 5G Private Network ถึงคุณสมบัติของเทคโนโลยีดังกล่าว และแนวทางการเลือกใช้ 5G Private Network ให้เหมาะสมกับงาน พร้อมคำตอบของคำถามที่หลายๆ คนคงมีในใจว่า "ถ้าใช้ 5G Private Network แล้ว เรายังต้องใช้ Wi-Fi ในองค์กรอีกหรือเปล่า?"
รู้จักกับ 5G Private Network
ก่อนหน้านี้เรามักจะได้ยินเรื่องราวของ 5G ในเชิงของการเป็นเทคโนโลยีที่มาแทน 4G โดยมีทั้งความเร็วที่สูงกว่า, การรองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ IoT ได้ดียิ่งขึ้น และความสามารถในการปรับแต่งคุณสมบัติหรือรูปแบบของการเชื่อมต่อโครงข่าย ที่สามารถทำได้อย่างหลากหลาย และรองรับกรณีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปได้ดียิ่งกว่า 4G
อีกสิ่งหนึ่งที่ 5G ได้เพิ่มเติมเข้ามานั้นก็คือ 5G Private Network ซึ่งจะกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ธุรกิจองค์กรสามารถใช้ในการออกแบบระบบเครือข่ายเพิ่มเติมได้ นอกเหนือจากการใช้งานเพียงแค่ LAN และ Wi-Fi อย่างในอดีตที่ผ่านมา
แล้ว 5G Private Network คืออะไร? หากจะตอบคำถามนี้โดยสรุปสั้นๆ แล้ว ก็คือการที่องค์กรสามารถใช้งานโครงข่าย 5G ที่ถูกแบ่งออกมาจากโครงข่าย 5G ที่มีให้บริการทั่วไป หรือวางเสากระจายสัญญาณ 5G เพื่อใช้งานภายในธุรกิจองค์กรของตนเองได้โดยไม่ต้องแบ่งช่องสัญญาณกับใคร
แนวทางดังกล่าวนี้จะทำให้ธุรกิจองค์กรมีทางเลือกในการออกแบบระบบเครือข่ายด้วยคุณสมบัติของ 5G ที่เหนือจาก LAN และ Wireless LAN ที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน เช่น
อย่างไรก็ดี หากมองในแง่ของการติดตั้งใช้งาน 5G Private Network นั้น ก็จะยังมีประเด็นที่ธุรกิจต้องทำความเข้าใจอยู่หลายส่วน เช่น
ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ดูแลระบบ IT และระบบเครือข่ายของธุรกิจองค์กรจึงควรเริ่มทำความรู้จักกับ 5G Private Network ถึงจุดเด่นและข้อแตกต่างจากระบบเครือข่ายแบบดั้งเดิม ไปจนถึงรูปแบบหรือเงื่อนไขการใช้บริการและการออกแบบระบบเครือข่ายด้วย 5G Private Network ให้ดี เพื่อให้การตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีนั้นเป็นไปได้อย่างเหมาะสม
การเลือกใช้งาน 5G Private Network ให้เหมาะสม ร่วมกับการใช้งาน LAN และ Wireless LAN ในองค์กร
มาถึงตรงนี้แล้วหลายๆ ท่านอาจเริ่มเกิดคำถามกันแล้วว่า "แล้วการใช้ 5G Private Network จะทำให้ธุรกิจองค์กรไม่ต้องใช้ Wi-Fi อีกต่อไปแล้วหรือเปล่า?" ซึ่งถึงแม้ทุกวันนี้ในการใช้งานอุปกรณ์ Smartphone หรือ Tablet เราก็มักจะมีการเชื่อมต่อ 4G/5G กันแทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ในการใช้งานสำหรับภาคธุรกิจองค์กรนั้น คำตอบของคำถามนี้คือ "การมี 5G Private Network นั้นยังไม่อาจทดแทนการใช้ LAN หรือ Wi-Fi ได้ในทุกกรณี"
คุณภุชงค์ เจริญสุข Enterprise Product Marketing Manager แห่ง AIS Business ได้เคยเล่าถึงประเด็นนี้ในงานสัมมนา TTT 2022 Reinforce ด้วยการนำเสนอตารางเปรียบเทียบเทคโนโลยี 5G Private Network, Wi-Fi และ Fixed Network (LAN) เอาไว้ดังนี้
จากตารางดังกล่าวจะเห็นได้ว่าข้อดีของ 5G Private Network เมื่อเปรียบเทียบกับระบบเครือข่ายแบบดั้งเดิม จะมีดังต่อไปนี้
ในทางกลับกัน สิ่งที่ระบบเครือข่ายแบบดั้งเดิมอาจจะยังตอบโจทย์ได้ดีกว่า 5G Private Network เองนั้นโดยหลักก็คือเรื่องของค่าใช้จ่ายในการลงทุน จากปัจจัยดังนี้
ดังนั้น การเลือกใช้งาน 5G Private Network จึงควรเลือกพิจารณาจากกรณีการใช้งานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป เช่น ถ้าหากต้องการระบบเครือข่ายเพื่อเชื่อมต่อ PC, Notebook, Smartphone หรือ Tablet การใช้ LAN และ Wi-Fi ก็อาจตอบโจทย์เหล่านี้ได้ดีอยู่แล้วเพราะไม่ต้องมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ใดๆ แต่หากต้องการใช้งาน Smartphone หรือ Tablet ในพื้นที่กว้างขวางเป็นจำนวนมาก หรือต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT, เครื่องจักร หรือหุ่นยนต์ในพื้นที่กว้าง ซึ่งต้องการสัญญาณที่เสถียรครอบคลุมทุกพื้นที่ และมีการตอบสนองที่ดี การใช้งาน 5G Private Network ก็อาจเหมาะสมกว่า เป็นต้น
AIS 5G Private Network: ตอบโจทย์การเชื่อมต่อ 5G ส่วนตัวสำหรับธุรกิจได้ ในแบบที่คุณต้องการ
เพื่อให้ธุรกิจองค์กรไทยสามารถเริ่มต้นใช้งาน 5G Private Network ได้อย่างง่ายดาย ทาง AIS Business จึงได้นำเสนอบริการ AIS 5G Private Network เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการออกแบบระบบเครือข่ายสำหรับใช้งานภายในองค์กรที่มุ่งเน้นการตอบโจทย์ด้านความครอบคลุมของสัญญาณในพื้นที่กว้าง และการรองรับอุปกรณ์จำนวนมหาศาลได้ โดยสามารถทำ Network Slicing เพื่อแบ่งสัญญาณ 5G ออกเป็นหลายส่วน และรองรับรูปแบบการใช้งานที่ต่างกันได้ตามต้องการ
บริการ AIS 5G Private Network จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
ที่ผ่านมา AIS Business มีโอกาสได้เข้าไปร่วมพัฒนากรณีการใช้งาน 5G ใหม่ๆ ให้กับภาคธุรกิจ ทำให้เกิดกรณีศึกษาที่น่าสนใจหลายส่วน
ตัวอย่างหนึ่งก็คือธุรกิจอุตสาหกรรม ที่เริ่มมีการใช้งาน Dedicated 5G Private Network เพื่อควบคุมเครื่องจักรและยานพาหนะในพื้นที่ทั้งหมดได้จากระยะไกล ทำให้ในพื้นที่ที่อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตของผู้ปฏิบัติงานนั้นถูกเปลี่ยนไปสู่ระบบอัตโนมัติทั้งหมด ทำงานอุตสาหกรรมต่อไปได้โดยไม่ส่งผลกระทบเชิงสุขภาพต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานช่วยบริหารจัดการ การใช้ทรัพยากร ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานฟุ่มเฟือย ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลงไปได้เป็นอย่างมาก ทำให้เกิด Solution ใหม่ ๆ อย่าง Smart Autonomous Vehicles Solution for Sustainable Industrial Advancement เป็นต้น
อีกตัวอย่างที่น่าสนใจ ก็คือกรณีของ Somboon Advance Technology ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ที่ได้เริ่มนำเทคโนโลยี 3D Vision-Robot, AS/RS-Warehouse และ Unmanned AGV จาก Siasun มาใช้ในโรงงาน เพื่อปรับเปลี่ยนการทำงานให้เป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น และจัดการกับชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักเยอะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการใช้ 5G Zoning Private Network ของ AIS เป็นระบบเครือข่ายหลัก เพื่อให้หุ่นยนต์ และระบบการจัดการคลังสินค้า สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัตินี้ รวมถึงสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้อย่างพร้อมเพียงกันในทุกพื้นที่ของโรงงาน ส่งผลให้การควบคุมสั่งการโดยอัตโนมัติทำงานเชื่อมโยงกันได้ในทุกระบบอย่างต่อเนื่องไม่สะดุดติดขัด
อีกกรณีที่จะช่วยให้เห็นภาพมากขึ้น ก็คือกรณีของ SCG ที่ได้ร่วมมือกับ AIS และ Huawei ในการนำระบบโครงข่าย 5G มาใช้ในระบบขนส่งแบบไร้คนขับจาก Yutong และ Waytous สามารถสั่งการรถบรรทุกเครื่องยนต์ไฟฟ้าจากระยะไกลได้โดยอัตโนมัติ เพื่อใช้ในการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าภายในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม SCG จ.สระบุรี เพิ่มความปลอดภัยให้กับการขนส่งด้วยยานยนต์ขนาดใหญ่ พร้อมสร้างความยั่งยืนด้วยการเปลี่ยนมาสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าในการขนส่ง ลดต้นทุนด้านพลังงานลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตนั้นถือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแรกๆ ที่จะได้รับประโยชน์จาก 5G Private Network มากที่สุด ทาง AIS Business จึงได้เปิดบริการ AIS 5G Private Network for Smart Manufacturing ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้งาน 5G ในอุตสาหกรรมการผลิตได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ และมั่นคงปลอดภัย
ทั้งนี้ถ้าหากธุรกิจใดสนใจเรียนรู้ถึงกรณีศึกษาและการใช้งานจริงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมบริการต่อยอดอย่างครบวงจร ก็สามารถติดต่อทีมงาน AIS Business เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที
วันที่เผยแพร่ 8 ธันวาคม 2565
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business
สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที