ในช่วงเวลาที่ธุรกิจแทบทุกอุตสาหกรรมจำต้องต่อสู้ดิ้นรนกับปัญหาอุปสรรคที่ประดังเข้ามารอบด้าน ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้น พลังงานขาดแคลน อาหารราคาแพง ความขัดแย้งระหว่างชาติที่ดูจะยืดเยื้อไม่น่าจะสงบลงง่าย ๆ สิ่งที่สำคัญสำหรับทุกองค์กรที่จะช่วยนำพาให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ไปได้ นั่นคือ “วิสัยทัศน์” และ “กลยุทธ์” ที่นำเอา Digital Technology มาประยุกต์ใช้ในองค์กร เพื่อเสริมศักยภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ทาง AIS Business ได้ประกาศ 5 กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไทยในปี 2022 พร้อมกับตั้งเป้าเป็น Cognitive Telco ที่มุ่งมั่นผลักดันให้ Digital Technology ไปสู่ลูกค้า บทความนี้ ทีมงาน TechTalk Thai จึงอยากจะหยิบยกเอาวิสัยทัศน์และเจาะกลยุทธ์ของทาง AIS Business ในหัวข้อแรกที่จะยังคงมุ่งมั่นสร้าง 5G Ecosystem ให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกธุรกิจในทุกด้าน อะไรคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้กลยุทธ์ดังกล่าวที่เราสามารถนำไปปรับใช้เพื่อฝ่าวิกฤตปีนี้ไปได้บ้าง บทความนี้มีคำตอบให้ครับ

พัฒนาต่อเนื่อง เสริมรากฐานให้มั่นคง

หากมองย้อนกลับไปในปีที่ผ่าน ๆ มา จะเห็นได้ว่า AIS Business ได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ของเครือข่าย 5G ให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องความจุ (Capacity) ของเครือข่าย 5G ที่เรียกว่า AIS มีครบทุกช่วงคลื่นความถี่ (Band) ทั้ง Low Band (700 MHz) Mid Band (2600 MHz) และ High Band (26 GHz) มากที่สุดในประเทศไทย

ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไปที่ต้องการครอบคลุมในวงกว้าง หรือว่าจะเป็นการใช้งานที่ต้องการความหน่วงต่ำ (Low Latency) หรือแบนด์วิดท์ (Bandwidth) สูง ๆ อย่างเช่นในเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โรงงานอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) ทาง AIS Business ล้วนมีให้บริการและโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากคลื่นที่มีทุกย่านความถี่แล้ว โครงข่าย 5G ของ AIS ยังครอบคลุม (Coverage) ทั้งประเทศไทยไปกว่า 78% อีกด้วย และถ้าหากคิดเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) เครือข่าย AIS ก็ได้ครอบคลุมไปมากกว่า 99% และ 96% ตามลำดับแล้ว

อย่างไรก็ตาม AIS ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมกว่าเดิม ด้วยเป้าหมายที่จะขยายเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมทั่วประเทศถึง 85% ภายในปี 2022 นี้

ต่อยอด ร่วมมือ สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์

อย่างที่รู้กันว่า AIS Business ได้มีโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานและแพลตฟอร์มบน 5G ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Fixed Wireless Access (FWA), Network Slicing, Multi-Access Edge Computing (MEC) หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่าง 5G Private Network ที่สามารถเลือกปรับแต่ง (Customize) เครือข่ายได้ตามความต้องการใช้งาน 

ด้วยโซลูชันที่หลากหลายเหล่านี้เอง จึงเป็นรากฐานที่ทำให้ AIS Business สามารถต่อยอดเป็นโซลูชันในระดับที่สูงขึ้น โดยมีทั้งแบบ 5G Horizontal Solution ที่ใช้งานได้ในวงกว้างหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ระบบ Machine Vision ระบบควบคุม Drone โซลูชัน AR/VR ที่นำไปสร้างเป็น V-Avenue ศูนย์การค้าบนโลกเสมือนแล้ว เป็นต้น กับแบบ 5G Vertical Solution ที่ตอบโจทย์ Use Case แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้นในงานที่ซับซ้อนแตกต่างกันไป เช่น โซลูชัน Smart Hospital ให้กับโรงพยาบาล ViMUT โซลูชันการทำ Smart Factory ในโรงงาน Yawata 

ทั้งนี้ จะเห็นว่าโซลูชันทั้ง 2 ลักษณะดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นและใช้จริงไม่ได้เลยถ้าหากไม่ได้มีพาร์ตเนอร์หรือหน่วยงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้นจริง ๆ ที่จะมาร่วมมือ ทดสอบใช้งานสร้างสรรค์โซลูชันใหม่กันขึ้นมา เพื่อทรานฟอร์มพลิกโฉมแก้ปัญหาได้สำเร็จ เหตุนี้เอง จึงทำให้เห็นว่าในปีที่ผ่านมา AIS Business ได้สร้างความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบทั้งกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อที่จะต่อยอดความร่วมมือในการสร้างเป็น Horizontal Solution และ Vertical Solution ที่ตอบโจทย์ได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งหลาย ๆ โซลูชันที่ร่วมสร้างกับพาร์ตเนอร์คนสำคัญทั้งหลายก็ได้เริ่มใช้งานจริงแล้วในวันนี้ ดังนั้น ชัดเจนว่าความร่วมมือเพื่อต่อยอดโซลูชัน คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ Use Case นั้นเกิดขึ้นจริง

ขยับขยาย เผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ

แม้ว่า AIS Business จะมีโซลูชันมากมาย มีหลาย Use Case ที่ใช้งานจริง และมีพาร์ตเนอร์ในหลากอุตสาหกรรมแล้ว แต่ AIS Business ก็ยังเลือกที่จะไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ตามกลยุทธ์ที่ AIS Business วางกลยุทธ์ในข้อแรกนั่นคือการสร้าง 5G Ecosystem ให้แข็งแกร่งรอบด้าน สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า AIS Business ยังคงเตรียมการขยับขยาย เตรียมเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเช่นเคย เพื่อสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ใหม่ ๆ ขึ้นมาในหลากหลาย Use Case ในแต่ละอุตสาหกรรมมากขึ้น

ดังนั้น บอกได้เลยว่าหลังจากนี้เราคงจะได้เห็นโซลูชันทั้ง 2 แบบจาก AIS Business ออกมาให้เห็นมากขึ้น ฉลาดและซับซ้อนขึ้น รวมทั้งความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามาต่อเนื่องอย่างแน่นอน ซึ่งในอนาคตทาง AIS Business คงจะมาบอกเล่าให้กับทางผู้ติดตามได้รับทราบกันในโอกาสต่อ ๆ ไป

บทส่งท้าย

จะเห็นได้ว่า แม้ AIS Business จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตการณ์ COVID-19 ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา แต่ AIS Business ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาองค์กรให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ เพื่อที่จะทำให้รากฐานบริการขององค์กรมีความมั่นคง รวมทั้งยังคงเดินหน้าวางวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่จะต่อยอดโซลูชันให้ตอบโจทย์การใช้งานจริง และสร้างพาร์ตเนอร์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริม Ecosystem ให้แข็งแกร่งขึ้นอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรฝ่าวิกฤตในปี 2022 และปีถัด ๆ ไปได้ และเมื่อถึงเวลาที่สถานการณ์ทุกอย่างนั้นกลับสู่สภาวะปกติแล้ว เชื่อว่า AIS Business ก็พร้อมเดินหน้าเต็มกำลัง ต่อยอดและขยับขยายในทุกด้าน ในทุกอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นคงแน่นอน 

ไฮไลต์ที่อยากจะเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยนั่นคือ ในปี 2022 นี้ ทาง AIS Business จะมีการเปิดตัวศูนย์ AIS 5G Innovation Center and Laboratory ที่ Thailand Digital Valley (EECd) ร่วมกับทาง depa ที่แหลมฉบัง ซึ่งจะเป็นศูนย์ Exhibition Center ที่เปิดให้หน่วยงานเข้ามาทดลองโซลูชันเครือข่าย 5G ได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับทาง Sustainable Manufacturing Center (SMC) ที่ AIS Business จะเข้าไปช่วยสนับสนุนการทดสอบ 5G ในพื้นที่ EECi แถวพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์อีกด้วย หากองค์กรใดต้องการทดสอบใช้งานโซลูชัน 5G สามารถเตรียมความพร้อมไว้ได้เลย

ถึงจุดนี้ หากองค์กรใดสนใจโซลูชันของทาง AIS Business สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ AIS Business ที่ดูแลองค์กรของท่านได้แล้ววันนี้ 

วันที่เผยแพร่ 9 สิงหาคม 2565