AIS ต่อยอดบริการ Open API ด้วยความร่วมมือกับ Bridge Alliance เชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม BAEx ให้องค์กรขยายธุรกิจในรูปแบบสากลผ่าน APIs ภายใต้สัญญาเดียว

หลังการเปิดตัว AIS Open API แพลตฟอร์มชุดบริการการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น ที่เป็นมาตรฐานสากลจาก GSMA สำหรับนักพัฒนาในองค์กรธุรกิจต่างๆ เพื่อเข้าใช้บริการและทรัพยากรจากผู้ให้บริการเครือข่าย ในการสร้างสรรค์บริการและนวัตกรรม  AIS ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความสะดวกให้องค์กรผู้ใช้บริการโดยการขยายขอบเขตการให้บริการไปสู่ระดับภูมิภาค ด้วยการต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเสริมเครือข่ายและเร่งการใช้งาน API ในระดับสากล

ในโอกาสนี้ AIS ได้ร่วมมือกับ Bridge Alliance เพื่อเชื่อมต่อ AIS Open API กับแพลตฟอร์ม Bridge Alliance’s API Exchange (BAEx) ซึ่งมีผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำอีก 12 ราย ประกอบด้วย Airtel, China Unicom, CSL, CTM, Globe, Maxis, Mobifone, Optus, Singtel, SK Telecom, Taiwan Mobile และ Telkomsel ร่วมให้การสนับสนุนโครงการนี้ ความร่วมมือจากผู้ให้บริการเหล่านี้ทำให้ AIS สามารถให้บริการ APIs ผ่าน BAEx ถึงบริการโทรคมนาคมจากผู้ให้บริการต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น และครอบคลุมพื้นที่ให้บริการได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเร่งทำให้เกิดการใช้งาน APIs เหล่านี้ โดยนักพัฒนา ผู้ให้บริการโซลูชัน และธุรกิจต่างๆจะสามารถเข้าถึงการใช้งานบริการโทรคมนาคมในหลายตลาดได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อสร้างนวัตกรรมร่วมกันและพัฒนาการใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ

นายภูผา เอกะวิภาต รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส

นายภูผา เอกะวิภาต รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายใหม่เพื่อขยายศักยภาพการแข่งขันให้กับธุรกิจไทยในระดับภูมิภาคด้วยเทคโนโลยีของการให้บริการโทรคมนาคม ด้วยการสร้างพันธมิตรทางเทคโนโลยีกับสมาชิกในกลุ่ม Bridge Alliance ทำให้การแบ่งปันและการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ช่วยลดความยุ่งยาก รวมถึงสร้างความปลอดภัยและประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน ผ่าน BAEx ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางสำหรับ API โดยทำให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของ AIS และผู้ให้บริการโทรคมนาคมในเครือพันธมิตรได้อย่างง่ายดายเพียงเชื่อมต่อที่ระบบเดียว

โดย AIS เปิดให้บริการการเชื่อมต่อเพื่อเข้าถึง และใช้งานบริการโทรคมนาคมนี้ผ่านแพลตฟอร์ม AIS Open API ที่ทำงานและเชื่อมต่ออยู่บน BAEx โดยพร้อมให้บริการได้แล้ววันนี้กับ Number Verify API ที่ช่วยเพิ่มความสะดวก และปลอดภัยสำหรับการยืนยันตัวตนผ่านหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่  SIM Swap API ที่ช่วยตรวจสอบการใช้งาน SIM ให้ถูกต้องตามเงื่อนไข และ Device Location API ที่ช่วยตรวจสอบพื้นที่ติดตั้งของอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างสะดวกและแม่นยำ เทคโนโลยีเหล่านี้จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งในประเทศไทยและระดับภูมิภาค”

Dr Ong Geok Chwee , CEO of Bridge Alliance กล่าวว่า ”เรารู้สึกตื่นเต้น และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมจำนวนมากที่เข้าร่วมโครงการ และช่วยพัฒนา BAEx ให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังความแข็งแกร่งของพันธมิตร และความร่วมมือกันใน Bridge Alliance อย่างแท้จริง ด้วยความร่วมมือจากผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมจำนวนมากจากหลากหลายภูมิภาคนี้ ที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์มมาตรฐานเพื่อเป็นตัวกลางสำหรับการใช้งาน APIs ด้านบริการโทรคมนาคม ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้งาน APIs เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจในระดับภูมิภาคได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์จากกรอบทางเทคนิค และเชิงพาณิชย์ที่มีการปรับปรุงให้สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อทำงานร่วมกับ BAEx  เรายังยินดีต้อนรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม และภาคธุรกิจต่างๆให้เชื่อมต่อกับ BAEx เพื่อสร้างนวัตกรรมร่วมกัน”

BAEx จะทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ APIs ของผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายต่างๆผ่านการเชื่อมต่อเพียงระบบเดียวและภายใต้สัญญาเดียวซึ่งเป็นไปได้ด้วยความสามารถของ PARAGON Platform จาก Singtel ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยาก ซับซ้อน จากเดิมที่ต้องเชื่อมต่อเข้ากับผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลายๆรายลงได้  BAEx ได้รับการพัฒนาจากโครงการ GSMA’s Open Gateway และ Project CAMARA ที่มุ่งสร้างกรอบการทำงานของ APIs ด้านเครือข่ายร่วมกัน เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงการใช้งาน APIs สำหรับผู้ให้บริการต่างๆ ได้อย่างเป็นสากล ปัจจุบัน BAEx ให้บริการ Silent Network Authentication API* อาทิ Number Verify และ SIM Swap ซึ่งใช้ประโยชน์จากข้อมูลเรียลไทม์ของผู้ให้บริการโทรคมนาคมในการตรวจสอบการยืนยันตัวตน และการป้องกันการฉ้อโกง  APIs เหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Fintech, e-commerce และบริการสื่อออนไลน์ สามารถมีกระบวนการตรวจสอบตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างปลอดภัย และราบรื่นเพื่อประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน

ในลำดับถัดไป BAEx จะเปิดตัว APIs เพิ่มเติม อาทิ eKYC (electronic know your customer) หรือ การยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ และ QOD (Quality-of-Service on Demand) APIs หรือ การปรับคุณภาพของบริการตามความต้องการ โดยลดความซับซ้อนของโมเดลเชิงพาณิชย์ทางธุรกิจ และขั้นตอนทางเทคนิคสำหรับการใช้งาน APIs ต่างๆ ซึ่งจะช่วยปลดล็อคความยุ่งยาก สร้างโอกาส และรายได้ใหม่ๆ ให้กับธุรกิจผ่านการเข้าถึงความสามารถของการให้บริการทางโทรคมนาคมได้

GSMA สนับสนุน BAEx โดยกล่าวว่า "เราเชื่อว่าโครงการนี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นักพัฒนาธุรกิจทั่วโลกสร้างความสามารถใหม่ๆ และบริการสำหรับภาคธุรกิจ และผู้บริโภค โครงการอย่าง BAEx มีความสำคัญในการรวบรวมความสามารถของบริการทางโทรคมนาคมให้แก่นักพัฒนา ด้วยการปรับให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐาน และผ่าน CAMARA APIs โครงการนี้สามารถช่วยให้ธุรกิจลดระยะเวลาพัฒนา และเร่งเวลาเข้าสู่ตลาดสำหรับบริการใหม่ๆ และมอบแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิผลมากขึ้นให้กับสังคม" กล่าวโดย Henry Calvert, Head of Networks, GSMA.

หนึ่งในองค์กรแรกที่เริ่มใช้งาน BAEx แล้วคือ V-Key ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัยดิจิทัล ซึ่งใช้งานอย่างแพร่หลายในกลุ่มภาครัฐ ธนาคาร และลูกค้าผู้พัฒนาแอปพลิเคชันขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาค และอีกหนึ่งองค์กที่ใช้งาน BAEx ในช่วงแรกคือ Unmanned Life บริษัทจาก สหราชอาณาจักรที่มีสำนักงานเทคโนโลยีในบาร์เซโลนา ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการจัดการการทำงานของหุ่นยนต์อัตโนมัติ

Joseph Gan, CEO and co-founder at V-Key กล่าวว่า “V-key รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นผู้นำในการใช้งานโซลูชันด้านความปลอดภัยนี้ โดยการทำงานร่วมกับ Bridge Alliance บนแพลตฟอร์ม BAEx Silent Network Authentication APIs จะเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับประสบการณ์ผู้ใช้ที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ การรวม V-Key ID ซึ่งเป็นโซลูชันการยืนยันตัวตนดิจิทัล ที่เน้นความเป็นส่วนตัวเข้ากับ API จะไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจด้วย"

Jorge Muñoz, Chief Commercial Officer at Unmanned Life กล่าวว่า “ เรารู้สึกตื่นเต้นกับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Bridge Alliance ในโครงการ BAEx  ความร่วมมือนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสำหรับอุตสาหกรรมด้านหุ่นยนต์อัตโนมัติเพื่อส่งต่อเทคโนโลยีขั้นสูงของเราไปใช้ทั่วเอเชีย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ความปลอดภัย และความยั่งยืนในด้านโลจิสติกส์ ด้วยการใช้ประโยชน์จาก CAMARA APIs เช่น QoD ทำให้เราพร้อมที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมและขยายการดำเนินงานของเรา เพื่อปฏิวัติโซลูชันหุ่นยนต์อัตโนมัติในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก”

AIS ร่วมกับ Bridge Alliance และผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เข้าร่วมใน BAEx จะร่วมกันทำกิจกรรมด้านการตลาดและการพัฒนาธุรกิจเพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และการใช้งาน APIs ในกลุ่มธุรกิจ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและธุรกิจทั่วโลก สามารถเยี่ยมชม https://www.bridgealliance.com/baex/ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมสำหรับ BAEx และ https://www.ais.th/business/enterprise/technology-and-solution/communication/ais-open-api เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AIS Open API 

วันที่เผยแพร่ 18 กันยายน 2567

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business