อุตสาหกรรมการเงินเป็นอุตสาหกรรมหนึ่ง ที่มีบทบาทความสำคัญต่อการขับเคลื่อนพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง และต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งภาพรวมในอุตสาหกรรมการเงินในปัจจุบันจะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากกฎระเบียบ ภัยคุกคามด้านความปลอดภัย และความผันผวนของตลาดการเงินระดับโลก ผู้ประกอบการในธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินจึงต้องเร่งเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อความอยู่รอดและเติบโตต่อไปภายใต้สภาวะเช่นนี้ และในขณะนี้ธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินระดับโลกกำลังขยับสู่ก้าวถัดไป คือ มุ่งสู่ความเป็นอุตสาหกรรมการเงินแบบอัจฉริยะ เม็ดเงินจำนวนมากจากอุตสาหกรรมนี้กำลังลงไปสู่เทคโนโลยีไอทีอันหลากหลาย เหตุผลใดที่ทำให้อุตสาหกรรมการเงินเร่งสปีดเดินหน้าสู่ความเป็นธุรกิจอัจฉริยะ และเทคโนโลยีใดที่ผู้นำด้านธุรกิจการเงินกำลังให้ความสำคัญ มาร่วมวิเคราะห์ไปด้วยกัน
อุตสาหกรรมการเงินเปิดฉากเดินหน้าสู่ความเป็นอัจฉริยะเต็มรูปแบบ
ในช่วงระยะที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการเงินทั้งสถาบันการเงินที่เป็นธนาคาร (Bank) และที่ไม่ใช่รูปแบบธนาคาร(Nonbank) ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากพฤติกรรมความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง ข้อจำกัดด้านกฎระเบียบของการประกอบการด้านการเงิน ความผันผวนของค่าเงิน ไปจนถึงเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ ความท้าทายเหล่านี้บีบรัดให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลกต้องเร่ง Transform ตนเองไปสู่การเป็นธุรกิจดิจิทัลโดยเร็ว จนในปัจจุบันอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลกก็ได้เปลี่ยนภาพสู่การเป็นดิจิทัลได้จนสำเร็จ แต่เท่านี้คงยังไม่เพียงพอ เมื่อโลกยังหมุนไปปัจจัยแวดล้อมก็เปลี่ยนตาม การจะหยุดอยู่กับการเป็นธุรกิจดิจิทัลในขั้นพื้นฐานก็คงไม่สามารถที่ยืนหยัดอยู่กับสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้นานนัก อุตสาหกรรมการเงินทั่วโลกจึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปสู่อีกขั้น นั่นคือ การเป็นอุตสาหกรรมแบบอัจฉริยะ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงมากช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพระบบการดำเนินการ รวมถึงช่วยสร้างประสบการณ์การให้บริการแบบใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า
แน่นอนว่าการก้าวไปอีกขั้นสู่การเป็นอุตสาหกรรมการเงินแบบอัจฉริยะ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีไอที ซึ่งหลาย ๆ องค์กรชั้นนำที่เป็นผู้ให้บริการด้านการเงินก็กำลังวางแผนการลงทุนในโซลูชันใหม่ ๆ กันอย่างจริงจัง เหตุผลหลัก ๆ ที่อุตสาหกรรมการเงินให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีไอทีมากขึ้นก็คือ
เหตุผลเหล่านี้เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้องค์กรชั้นนำในภาคอุตสาหกรรมการเงิน เร่งลงทุนในโซลูชันด้านไอทีเพื่อยกระดับธุรกิจไปอีกขั้น สู่ความเป็นผู้ให้บริการทางการเงินแบบอัจฉริยะ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์
เปลี่ยนสู่ความอัจฉริยะเพิ่มความได้เปรียบให้ธุรกิจ
การพลิกโฉมอย่างรวดเร็วด้านเทคโนโลยีและระบบดิจิทัล ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นว่า สมรภูมิภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านการเงินมีความดุเดือดและเข้มข้น จึงเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่า ธุรกิจใดจะสร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่ก้าวทันเทคโนโลยี และนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อเป็นการติดอาวุธสร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจสามารถอยู่ในกระแสการแข่งขันได้อย่างสง่างาม โดยกระแสของเทคโนโลยีที่น่าสนใจในปัจจุบัน คือ
1.ใช้ความฉลาดอย่างไร้ขีดจำกัดของ AI
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เทคโนโลยี AI ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต่าง ๆ ได้นำเทคโนโลยีนี้มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล และประมวลผลเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า อีกทั้งยังมีการประยุกต์ AI เพื่อการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะการให้บริการในรูปแบบ AI Chatbot ที่สามารถสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการพัฒนาอัลกอริทึมด้านภาษา เพื่อให้บริการและตอบโต้กับลูกค้าได้เสมือนกับพูดคุยกับมนุษย์จริง ๆ ไม่เพียงเท่านี้เพราะแนวโน้มการเติบโตของ AI สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า นำไปสู่การวางแผนสร้างสรรค์บริการที่ตรงใจ และพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าแบบรายบุคคลได้อย่างแม่นยำ
และในภาคส่วนของอุตสาหกรรมการเงินและการธนาคาร AI จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน เช่น การช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อการนำเสนอกลยุทธ์ทางการตลาด หรือการนำข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ไปพัฒนระบบ Mobile Banking ให้มีประสิทธิภาพและทันสมัยมากขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ในการทำงานที่ต้องใช้การพิจารณาเงื่อนไขเป็นพิเศษ เทคโนโลยี AI ยังเข้ามามีบทบาทในการช่วยตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาสินเชื่อ การช่วยตรวจสอบการทำธุรกรรมที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นการฉ้อโกงหรือฟอกเงิน และการควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลของลูกค้า ช่วยตอบโจทย์ทั้งด้านสร้างความน่าเชื่อถือ กำกับดูแลความเสี่ยง และช่วยรักษาความปลอดภัยให้แก่สถาบันการเงินและธุรกิจต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
2.เทคโนโลยีคลาวด์ หัวใจสำคัญแห่งยุคเทคโนโลยีและดิจิทัล
เทคโนโลยี Cloud Computing ตัวช่วยประมวลผล จัดเก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลผ่านตัวกลางคืออินเทอร์เน็ต กลายเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ ที่เพิ่มความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการทำงานจากที่ใดก็ได้ โดยเทคโนโลยีนี้ทำให้หลายธุรกิจต้องเริ่มปรับตัวให้ก้าวทันกระแส คลาวด์ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ทำให้ธุรกิจสามารถเลือกรูปแบบการใช้งานในองค์กรตามประเภทการใช้งาน หรือลักษณะความสำคัญของข้อมูลได้
และจริงอยู่ว่าเทคโนโลยีคลาวด์จะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะมีการใช้งานกันมาสักพักแล้ว แต่สำหรับภาคอุตสาหกรรมการเงินและการธนาคาร การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ร่วมกับระบบคลาวด์คือสิ่งที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ธนาคารรับมือกับการประมวลผลด้านข้อมูลอันมหาศาล และเชื่อมโยงข้อมูลของลูกค้ากับฝ่ายต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยีคลาวด์ยังสามารถใช้พัฒนาแพลตฟอร์ม ให้รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม การลด หรือการปรับปรุงระบบ
3.ระบบ IoT ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร 5G
Internet of Things (IoT) ระบบที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่หลายธุรกิจ สร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิตประจำวันให้มีความสะดวกสบาย โดยระบบนี้มีหัวใจสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีการสื่อสาร 5G ที่ช่วยให้การรับส่ง หรือการโอนย้ายข้อมูลต่าง ๆ มีความรวดเร็วมากขึ้น และเมื่อเทคโนโลยี 5G เชื่อมโยงกับระบบ IoT จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจได้อีกมากมาย เช่น การป้อนข้อมูลสำคัญ เพื่อพัฒนาให้ AI มีความฉลาดอย่างไร้ขีดจำกัด เป็นต้น
นอกจากนี้ การเชื่อมต่อเทคโนโลยี 5G ยังช่วยให้ธุรกิจ สถาบันการเงิน และธนาคาร สามารถเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว นำไปใช้ประโยชน์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแบบรายบุคคลได้อย่างลงตัว เช่น ธนาคารสาขาต่าง ๆ สามารถติดตั้งเซนเซอร์เพื่อสำรวจจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการในแต่ละวัน เพื่อส่งรายงานให้ธนาคารได้ทราบ และนำไปปรับปรุงการให้บริการ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อการตัดสินใจอนุมัติสินเชื่อ เป็นต้น
การยกระดับการให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ เหล่านี้ ถือเป็นกลยุทธ์ชิงความได้เปรียบของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเงินในยุคนี้เลยก็ว่าได้ นั่นเท่ากับว่าใครสามารถที่จะนำความสามารถของเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ย่อมทำให้ได้เปรียบเหนือคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันมากขึ้น
จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเงินสามารถก้าวไปสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะที่เหนือชั้นกว่าใครได้ ทำให้ทุกองค์กรต่างกำลังพยายามเดินหน้าวางแผนการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลกันอย่างจริงจัง และในฐานะผู้นำด้านบริการ Digital Solutions สำหรับภาคธุรกิจ AIS Business ก็พร้อมอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนและเดินเคียงข้างไปกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการเงินของไทย ด้วยประสบการณ์การดูแลลูกค้าภาคธุรกิจและโครงข่ายอัจฉริยะ 5G อีกทั้งเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์มจากพาร์ทเนอร์ระดับโลก ทำให้เราพร้อมอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคอุตสาหกรรมการเงินของไทย เพื่อให้ธุรกิจการเงินเดินหน้าสู่ความเป็นอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้
เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี
เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://business.ais.co.th
Reference
สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที