Scalability และ repeatability คืออะไร? 2 สิ่งที่สำคัญสำหรับเหล่าสตาร์ทอัพ แต่เชื่อเลยว่านักธุรกิจ Startup ในไทยจำนวนมากยังไม่เข้าใจถึงสิ่งนี้ แล้วทำไมจึงควรรู้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงมือทำธุรกิจ เพราะถ้าหากไม่รู้ ไม่ได้วางแผนคิดเอาไว้ หรือคิดได้ช้า ก็อาจจะส่งผลในวันข้างหน้าถึงขั้นต้องหยุดกิจการกันเลยทีเดียว
ซึ่ง Scale หากแปลตรงตัวเลย คือ การ “ขยายตัวได้” ซึ่ง Scalable นั้นมีทั้งแนวตั้ง (Vertical Scale, Scale Up) และแนวนอน (Horizontal Scale, Scale Out)
ยกตัวอย่างเช่น การเปิดร้านชานมไข่มุก
การ Scale Up คือ การขยายร้านจากเดิมที่มีห้องเดียว ก็เพิ่มเป็น 2 ห้องแถว และเมื่อเพิ่มขยายร้านให้มีประสิทธิภาพแล้วกำไรก็จะเพิ่มขึ้น สเกลแบบนี้จะได้ฐานลูกค้าเดิมแต่คุณภาพเพิ่มขึ้น ส่วน Scale Out ก็คือ การเปิดสาขาใหม่สเกลแบบนี้จะได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
ถ้ามาทางฝั่งสตาร์ทอัพ การ Scale Up คือ การเพิ่มฟีเจอร์ให้กลุ่มลูกค้าเดิมได้ใช้มากขึ้น มีวิธีให้ลูกค้าจ่ายเงินมากขึ้น การ Scale Out คือ การขยายฐานลูกค้าไปตลาดต่าง ๆ มากขึ้น จากเดิมอาจจะเริ่มแค่ที่ไทย เป็น Startup Thailand ก็ขยายไปต่างประเทศ เป็นต้น
หลายครั้งที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่า... แอปพลิเคชันหลายตัวที่ปล่อยออกมา มียอดโหลดเป็นล้านภายในไม่กี่วัน แต่กลับมีมูลค่าทางการตลาดที่ไม่สูงอย่างที่คิดเป็นเพราะอะไร? คำตอบ คือ สาเหตุมาจากการที่แอปพลิเคชันนั้น "ไม่สามารถ Repeatable” ได้นั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน LINE ที่หลายคนคงเคยเสียเงินซื้อธีมไลน์ ซื้อสติกเกอร์ไลน์อยู่เรื่อยๆ นั่นหมายความว่า แอปพลิเคชันนี้สามารถ Repeatable ได้และมีมูลค่าทางการตลาดสูงอยู่ตลอด
ไม่ว่าบริษัท Startup Thailand จะออกแบบผลิตภัณฑ์มาดีแค่ไหน จะมียอดโหลดที่สูงเท่าไหร่ แต่หากไม่เกิดการเข้าใช้งานซ้ำ (Repeatable) ของลูกค้าไปนาน ๆ ธุรกิจ Startup Thailand อาจมาถึงทางตันในที่สุด หรือที่เรียกว่าจุดอิ่มตัวของธุรกิจ แต่อย่าเพิ่งท้อ! ลองวางแผนสร้างการ Repeatable ให้ดี เท่านี้ธุรกิจของคุณก็จะไม่ใช่ Product ที่ดังข้ามคืนแล้วจบไปอย่างแน่นอน
ความสำคัญของ 2 สิ่งนี้ คือ ปัจจัยขั้นพื้นฐานของการเริ่มต้นทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ หากทำธุรกิจ Startup Thailand ที่ขยายตัวไม่ได้ “มีเท่าไหร่ทำเท่านั้น” ก็จะไม่มีโอกาสได้กำไรเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าพูดถึงว่าไม่มีการ Repeatable การทำซ้ำของธุรกิจแล้ว ความยากลำบากของธุรกิจ Startup Thailand ก็ยิ่งมีมากขึ้น
ถ้า Scale ไม่ได้แต่ Repeat ได้ ก็จะอยู่ในรูปแบบของ SMEs หรือ Startup Thailand ที่ ขายของทั่วไป และนักลงทุนจะได้ส่วนแบ่งของกำไรไป แต่ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อย ที่สำคัญการจะคาดหวังให้เงินเพิ่มร้อยเท่าพันเท่าคงเป็นไปได้ยาก และหากวันไหนธุรกิจซบเซาขายไม่ดีขึ้นมาความเสี่ยงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น นี่คือเหตุผลว่า นักลงทุนในสายติดกัน Startup Thailand ถึงให้ความสำคัญกับธุรกิจที่สามารถ Scale และ Repeat ได้เป็นพิเศษ
ดังนั้น การจะเริ่มต้นลงมือทำ Startup ควร มีแผนสำหรับการ Scalable และการ Repeatable ไว้เสมอ เพราะการออกแบบธุรกิจ Startup Thailand ให้สามารถขยายตัวได้ (Scalable) ในขณะเดียวกันก็ต้องทำซ้ำได้เหมือนกัน (Repeatable) มันไม่ง่าย ต้องอาศัยทั้งเวลาและประสบการณ์ แต่หากทุ่มเทกับมันรับรองว่าธุรกิจ ของคุณไม่มีล้มลุกคลุกคลานกลางคันอย่างแน่นอน ให้นึกไว้เสมอว่าข้อดีของการ Scalable และ Repeatable ได้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะนำพาให้ธุรกิจ ไปสู่เส้นชัยได้อย่างราบรื่น ทาง AIS The StartUp ขอเป็นอีกกำลังใจให้เหล่านักธุรกิจ Startup Thailand ที่มีฝัน ฝ่าฟันปัญหา รู้จักวางแผน และลงมือทำจนถึงเป้าหมายที่คาดหวังไว้ทุกคน
บทความโดย
AIS The StartUp