คุณเอกได้บอกเราว่า เป็นเรื่องของการรู้จักหาโอกาสอยู่เสมอ เพราะเมื่อก่อนมีกระแสเอาโทรศัพท์ไปเปลี่ยนคีย์บอร์ดที่ตู้โทรศัพท์มือถือ พอมาเป็นยุคของ Virtual Keyboard ทางเลือกตรงนี้มันขาดหายไป Pastel Keyboard จึงอยากเข้ามามอบทางเลือกให้กับผู้ใช้โทรศัพท์ ทุกคน เพราะขนาดเสื้อผ้าเรายังเลือกได้ แล้วทำไม? กับคีย์บอร์ดที่เราต้องมองและใช้อยู่เกือบทั้งวันกลับไม่มีทางเลือก?
Pastel Keyboard จึงเกิดขึ้นมาเพื่อออกแบบแป้นพิมพ์ให้เหมาะกับบุคลิก ความชอบ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ให้แสดงความ เป็นตัวเองได้ มาพร้อมสโลแกนประจำของ Pastel Keyboard “ทำยังไงให้ชีวิตสนุก และสะดวกสบายขึ้น” นอกจากจะเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา ให้กับผู้ใช้งานแล้ว ยังได้มอบความสะดวกสบายเพิ่มเติมให้กับผู้ใช้ เช่น เก็บข้อความเอาไว้ใน Keyboard ได้จะได้ไม่ต้องคอยพิมพ์บ่อยๆ อย่างที่อยู่หรือคำตอบให้กับลูกค้าของเรา กรณีถ้าเราขายของออนไลน์ เป็นต้น
สำหรับคุณเอกแล้ว การจะพิชิตความสำเร็จไม่ได้มีกลยุทธ์อะไรมากมาย แค่ทำไปเรื่อยๆ “ประสบการณ์จะสอนเราเอง” ซึ่งทาง Pastel Keyboard ก็ทำแอปฯ มา 9 - 10 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นประสบการณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และความสำเร็จไม่ได้เกิดจากโชคชะตา แต่เราต้องสร้างด้วยมือของเราเอง สิ่งต่อมา คือ การทำ Marketing Research อย่างหนักหน่วง และการทำ Prototype เข้ามาใช้ ในชีวิตจริง นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้แล้ว ยังได้ศึกษา ทดลอง กลุ่มตลาดของจริงอีกด้วย
ปัจจุบัน Pastel Keyboard มีฐานผู้ใช้จำนวนหนึ่งซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จไปอีกก้าวแล้ว และที่เป็นกลุ่มลูกค้าแบบ Mass Marketing ซึ่งจัดอยู่ใน Customer Marketing 1 (ตลาดที่ 1) แต่ Pastel Keyboard ก็อยากมอบสิ่งดีๆ ให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น ซึ่งได้มีการวางแผน สำหรับลูกค้าฝั่ง Corporate มากขึ้น คือ เป็นคีย์บอร์ดสำหรับองค์กร เพื่อให้องค์กรสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานยุคใหม่ด้วยกลยุทธ์ Brand-in (Blend-in) คือ แทรกตัวเข้าไปอยู่ร่วมกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะ Corporate ที่เกิดขึ้นมานานแล้วและมีปัญหา กับการสื่อสารกับวัยรุ่นยุคใหม่ให้สามารถซึมซับแบรนด์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านคีย์บอร์ดที่ผู้ใช้ต้องใช้กันทุกคน นั่นคือ การเปิดตลาดที่ 2
คำถามนี้เป็นคำถามที่ทุกคนต้องถามกับตัวเอง ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันดีแค่ไหน ตอบโจทย์กับลูกค้าจริงไหม? ซึ่งมันทำได้โดยเริ่มจาก การลดความเสี่ยงด้วยวิธี Research กับร้านค้าและกับตลาดที่มีอยู่ เราต้องรู้ให้จริง รู้ให้ลึก และเข้าใจทุกกระบวนการว่า คู่แข่งเราเป็นใคร มีราคาเท่าไหร่ ข้อได้เปรียบเสียเปรียบคืออะไร และเรามีอะไรไปสู้กับเขา? จากนั้นเริ่มลงมือทำ ทดสอบตลาดจากจุดเล็กๆ เมื่อสำเร็จ ค่อยเริ่มต่อขยายฐานธุรกิจไปเรื่อยๆ เมื่อนั้นเราจะรู้เองว่าทำไปแล้วมีคนใช้หรือเปล่า? แต่ถ้าถาม Pastel Keyboard ที่สามารถ สร้างยอดดาวน์โหลดใน Play Store ได้สูงมากกว่า 300,000 ดาวน์โหลด และยังคงรักษาตำแหน่ง Top Download ได้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา “นี่แหละคือคำตอบ”
จากสิ่งที่ Pastel Keyboard มี คือ ของที่ดีอยู่แล้ว แต่ของดีพวกนั้นมันอยู่แค่ในกรอบ อยู่แค่ในกล่อง เมื่อวันหนึ่งที่เราอยากเติบโตไปให้ถึง ในระบบ Corporate ทาง AIS The StartUp ได้เข้ามาช่วยสานฝัน ช่วยพัฒนาต่อยอดจากสิ่งที่เรามีให้มันง่ายและเร็วขึ้น รวมไปถึงความ เป็นมืออาชีพที่ทาง AIS The StartUp ได้ส่งต่อมาถึง Pastel Keyboard อีกด้วย
ส่วนผสมของความเป็นส Startup Thailand คือ “ต้องมีความฝัน” ถึงจะมีคนอื่นมองมาด้วยสายตาที่ไม่เชื่อในความฝันของคุณ แต่จงอดทน สู้ต่อไป พัฒนาความฝันจากจินตนาการ และเริ่มลงมือทำให้ฝันนั้นเป็นจริงให้ได้ เมื่อวันนั้นมาถึง วันแห่งความสำเร็จ คุณอาจไม่รู้ตัว ด้วยซ้ำ แต่มันก็แค่ It just work !
ความจริงแล้วธุรกิจ Startup Thailand ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่สินค้าหรือการให้บริการที่ยิ่งใหญ่เสมอไป แต่สตาร์ทอัพอาจจะเป็นอย่าง Pastel Keyboard ที่ให้ทั้งประสบการณ์ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน เพียงแค่การเปลี่ยนแป้นพิมพ์ก็ทำให้ไปสู่เส้นทาง แห่งความสำเร็จได้ แค่กล้าคิด กล้าฝัน และลงมือทำ AIS The StartUp ขอสนับสนุกทุกคนที่มีฝันให้สู้ต่อไปนะครับ!!
: www.pastelapps.com
: www.facebook.com/pastelkeyboardofficial
บทความโดย
AIS The StartUp