รุ่งอรุณแห่งยุค 5G มาถึงแล้ว ในขณะที่เรายังถกเถียงกันเรื่อง 4G แต่รู้หรือไม่ 5G กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมากมายกับโลกของเรา ในเวลาอันใกล้ หรือจะเรียกว่าอาจจะเร็วเกินไปที่ใครหลายคนจะปรับตัวได้ เนื่องจากปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนมีสมาร์ทโฟนติดตัวอยู่ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเพื่อสื่อสาร หรือตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ซึ่งอุปกรณ์หลายพันล้านชิ้นเหล่านั้นล้วนถูกเชื่อมต่อกับโครงสร้าง พื้นฐานของเว็บไซต์เกือบทั้งหมด ไม่เพียงแต่การมีสมาร์ทโฟนไว้เพื่อท่องเว็บและส่งข้อความเท่านั้น แต่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนยังต้องสามารถ
สตรีมมิ่งได้ ภาพและเสียงต้องคมชัดระดับ HD กล้องรักษาความปลอดภัย การขับขี่ด้วยตนเอง และรถยนต์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รวมไปถึง อุปกรณ์ที่มีแนวโน้มอื่นๆ เช่น เซ็นเซอร์สุขภาพและฮาร์ดแวร์ AR และ VR อีกมากมายทั้งหมดนี้จึงเป็นคำตอบว่า 5G จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์มากขึ้นกว่าเดิมมากๆ ในวันนี้ที่ความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตไม่จำกัด และเครือข่ายต้องสามารถรองรับการเชื่อมต่อให้เร็วขึ้น อีกทั้งยังต้องรองรับการทำงานพร้อมกันให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ลองยกตัวอย่างง่ายๆ หากคุณต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ 10 เครื่องเข้ากับอินเทอร์เน็ต ถ้าเมื่อ 2-3 ปีก่อน คุณอาจจำเป็นต้อง ใช้อุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในขณะเดียวกันสำหรับองค์กรขนาดใหญ่หรือผู้ให้บริการ ก็ต้องใช้เงินลงทุนกับเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบเครือข่ายอันแสนซับซ้อนนี้ เพื่อรองรับความต้องการของผู้คนที่จะใช้บริการอินเทอร์เน็ตในเครือข่ายของพวกเขาจำนวน ไม่น้อยเช่นกัน แต่สำหรับ 5G นั้น จะเป็นตัวเข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะเทคโนโลยี 5G นี้ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการเชื่อมต่อ ที่สำคัญเสาสัญญาณยังสามารถรองรับอุปกรณ์ได้นับล้านเครื่องภายในระยะทางหนึ่งตารางกิโลเมตรเท่านั้น
1. ความเร็วของเครือข่ายและการมีเสถียรภาพ จะทำให้สตาร์ทอัพที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เกิดอุปสรรคในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์น้อยมากๆ เรียกได้ว่าเกิดข้อผิดพลาดจากระบบน้อยนั่นเอง
2. ปลอดภัยและทั่วถึงขึ้น เพราะเมื่อ 5G เข้ามาเพื่อเชื่อมต่อทุกอุปกรณ์เข้าด้วยกันได้ง่ายดาย ก็จะทำให้สตาร์ทอัพที่ต้องการคิดค้นระบบที่อาศัยการเชื่อมโยงถึงกัน ทำได้ง่ายขึ้นและผู้คนใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วย
3. ถ้าพูดถึง Big Data ไม่ต้องห่วงในเรื่องของการเข้าถึงไฟล์ส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ ที่สามารถทำได้รวดเร็วและทันท่วงทีมากขึ้น
4. ในการคิดค้นหรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ต้องอาศัยความเร็วสูงของอินเทอร์เน็ตเป็นพิเศษ ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากความเร็วของ 5G เป็นความเร็วที่ไร้ขีดจำกัด
5. เครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5G สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ไกลขึ้น แม้ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้สตาร์ทอัพหมดกังวลเรื่องจุดอับสัญญาณหรือบางพื้นผู้คนจะไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ทั้งหมดนี้สตาร์ทอัพจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม หากอยากคว้าโอกาสจาก 5G ที่กำลังจะมาถึง ลองไปดูเคล็ด (ไม่) ลับ ที่ AIS The StartUp เอามาฝากสำหรับสตาร์ทอัพคนไหนที่อยากลองเริ่มเตรียมตัวกับ 5G นี้ครับ
ในเมื่ออีกไม่ช้าไม่เร็ว 5G ก็จะต้องเข้ามามีบทบาทกับทุกคนบนโลก สิ่งที่จะเตรียมตัวในสตาร์ทอัพได้ดีที่สุด คือ การเริ่มเรียนรู้ และอยู่กับมันให้ได้ก่อน เริ่มจากการวางแผนการฝึกอบรมและกลยุทธ์การสื่อสารที่ชัดเจน ว่าทำไม 5G ถึงมีความสำคัญต่อการทำให้ทุกคนอยู่ตรงนี้ ในขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจว่า ทุกคนไม่สามารถเข้าใจว่า 5G มีความหมายต่อบริษัทได้ทั้งหมด แต่ต้องผลักดันนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ทีมหรือพนักงาน เห็นว่าสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของบริษัท ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปมันจะถูกซึบซับเข้าไปเอง
ในทุกแง่มุมของธุรกิจจะได้รับผลกระทบจาก 5G ที่จะกลายมาเป็นชิ้นส่วนขับเคลื่อนอย่างมหาศาล เพราะฉะนั้นในทีมหรือองค์กรจะต้องมีการประสานงานและจัดระบบต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งใหม่ๆ เช่น คอมพิวเตอร์บางรุ่น สมาร์ทโฟนบางประเภทอาจจะไม่รองรับระบบ 5G และกลายเป็นว่าสิ่งของพวกนี้ อาจต้องถูกทอดทิ้งเพื่อทำให้บริษัทขับเคลื่อนธุรกิจไปได้ แต่จะดีกว่าไหมหากเราติดตั้งระบบเพื่อเตรียมพร้อมให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องที่สตาร์ทอัพต้องเรียนรู้ หากอยากคว้าโอกาสจากเทคโนโลยี 5G
เนื่องจากเทคโนโลยี 5G เป็นเทคโนโลยีใหม่ บางคนอาจจะกลัวเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง เหมือนกับคำพูดที่ว่า “เราต้องหัดใช้เทคโนโลยี อย่าให้เทคโนโลยีมาใช้เรา” การลองจัดช่วงเวลาในการเรียนรู้สำหรับทีมหรือพนักงาน ที่ยังปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี และกระบวนการใหม่ในธุรกิจไม่ค่อยได้ ก็จะช่วยฝึกให้ทีมได้พัฒนาและสามารถรับมือกับข้อจำกัดได้ทันการณ์ ที่สำคัญเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าพนักงานสามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น อเมซอนกำลังฝึกอบรมพนักงานหนึ่งในสาม เพื่อช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ระบบอัตโนมัติ การเรียนรู้ของเครื่องและระบบ 5G ในที่สุดพวกเขาเหล่านั้นก็สามารถเผชิญหน้ากับโลกอนาคตได้อย่างไม่กลัวเทคโนโลยี
การยอมรับ ทำความเข้าใจ และอยู่กับเทคโนโลยี 5G ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกธุรกิจในอีกสามถึงสี่ปีข้างหน้า ดังนั้น สตาร์ทอัพที่ต้องการสัมผัสกับผลประโยชน์จาก 5G นี้ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ เพราะอนาคตของธุรกิจอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ 5G เสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้คุณเริ่มลงมือทำอะไรแล้วหรือยัง ?
บทความโดย
AIS The StartUp