ถ้าพูดถึงประเทศไทยที่เป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยวแล้ว คงหนีไม่พ้นธุรกิจโรงแรมหรือแหล่งช้อปปิ้งที่กำลังเจริญเติบโตมากในขณะนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนคาดไม่ถึงว่าในบ้านเราจะมีธุรกิจบริการแบบนี้อยู่ด้วย นั่นก็คือ ธุรกิจรับ-ส่งกระเป๋าให้นักท่องเที่ยวซึ่งนอกจากจะไม่ต้องแบกกระเป๋าให้หนักแล้วยังช่วยลดภาระประหยัดเวลาในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่นๆ ให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
คุณเอ๊ด สิภวิช ธำรงวราภรณ์ และ คุณโอ๊ต สิทธิ เนื่องจำนงค์ CEO บริษัท Bellugg เล่าให้ฟังว่า ธุรกิจนี้เกิดจากการที่ทั้งสองคนชอบเดินทางไปเที่ยวที่ต่างประเทศ แล้วเจอบริการรับ-ส่งกระเป๋าจากสนามบินไปยังที่พัก ซึ่งสะดวกและทำให้มีเวลาไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่าขึ้นมาก จากนั้นจึงมองย้อนกลับมาว่า ที่ประเทศไทยของเรายังไม่มีบริการสำหรับนักท่องเที่ยวแบบนี้เลย ทั้งๆ ที่บ้านเราเรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ เพราะฉะนั้นเรา 2 คน ควรจะต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับบริการนี้จนเกิดมาเป็น Bellugg ในที่สุด
Bellugg (เบลลัคค์) Startup Thailand ประเภทธุรกิจบริการรับส่งกระเป๋าเดินทาง ระหว่างสนามบินและโรงแรมต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับเวลาและประสบการณ์ ซึ่งต้องการที่จะใช้เวลาให้คุ้มค่า หรือเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการมาประเทศไทยให้มากที่สุด รูปแบบการบริการนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดเวลาในการเดินทางนำกระเป๋าไปฝากที่โรงแรมหรือเดินทางกลับไปรับกระเป๋าก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ที่สำคัญ Bellugg ยังทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือไปพบลูกค้าคนสำคัญได้โดยไม่ต้องกังวล เรื่องการลากกระเป๋าให้เป็นปัญหา หรือกลัวว่ากระเป๋าจะหาย และยังสามารถช่วยให้ผู้ใช้บริการมีเวลาเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะซื้อของฝาก ช้อปปิ้งอีกด้วย
ก่อนที่จะเริ่มต้นธุรกิจต้องมีการวางแผน วางกลยุทธ์ของธุรกิจให้ชัดเจน ซึ่งทาง Bellugg ได้มีการศึกษาวิเคราะห์มาแล้วว่าธุรกิจการให้บริการนั้น ผู้ใช้บริการหรือลูกค้าคือปัจจัยสำคัญ แล้วลูกค้าต้องการอะไรบ้างในการใช้บริการครั้งนี้ ดังนั้นต้องเริ่มจากการวางกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนก่อน ทาง Bellugg มองว่าความหลากหลายของนักท่องเที่ยวมีมาก เพราะฉะนั้นต้องทำการเจาะกลุ่มลูกค้าเพื่อศึกษาพฤติกรรม และมองหากลุ่มลูกค้าที่จะใช้บริการของเรา ซึ่งควรจะเลือกจากสิ่งที่คิดว่ามีความเข้าใจและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด ทาง Bellugg จึงเลือกเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวเอเชียก่อน
3 ปีที่ผ่านมาของการดำเนินธุรกิจของ Bellugg ทำให้ทั้งคุณเอ๊ด และ คุณโอ๊ตมีประสบการณ์มากขึ้นในวงการ Logistic ก้าวต่อไปของ Bellugg จึงเป็นการขยายทั้งประเภทของสิ่งของและขยายไปต่างประเทศ ล่าสุดทาง Bellugg ได้มีการทดลองเริ่มทำแล้วคือการรับ-ส่ง สิ่งของช้อปปิ้ง เช่น นักท่องเที่ยวไปซื้อของ เดินช้อปปิ้งมีของเยอะแต่ต้องไปที่อื่นต่อ ไม่อยากเสียเวลาเอาของไปเก็บที่โรงแรม ทาง Bellugg ก็เข้ามาแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ นั่นก็คือ การขยายเรื่องประเภทของการรับ-ส่งที่ไม่ใช่แค่กระเป๋าเดินทางสัมภาระ ส่วนก้าวต่อมาในอนาคต คือ การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ปัจจุบันมีแต่บริการนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในประเทศไทย ต่อไปจะเริ่มมีการบริการนักท่องเที่ยวที่ในต่างประเทศด้วยเช่นกัน เช่น หากลูกค้าต้องการเที่ยวต่างประเทศ ก็จะมีจุดบริการตามจุดที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ ในต่างประเทศไว้คอยบริการด้วย
คุณเอ๊ด และ คุณโอ๊ตมีประสบการณ์ความรู้ทั้งด้านการตลาดและการเงินที่แข็งแรงมากพอที่จะบริหารธุรกิจไปด้วยกันได้อย่างดี
ส่งผลให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นตามความเชื่อของทั้งสองคือ “No one perfect”
การทำงานร่วมกันอย่างเข้าอกเข้าใจกันถึงแม้จะไม่ใช่ทีมที่เก่งที่สุด แต่เป็นทีมที่ยอมเสียสละเพื่อกันและกันนี่คือสิ่งที่สำคัญมากๆ
Service ก็เปรียบเสมือน Detail รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ความใส่ใจในบริการที่ Bellugg มีให้กับลูกค้าทุกขั้นตอน
การที่จะเข้ามาทำ Startup Thailand ต้องมีการเชื่อมั่นในสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะการต้องเริ่มต้นลงมือทำอะไรใหม่ๆ มีทั้งความเหนื่อยความท้อรออยู่ตรงหน้า กว่าจะมีคนมาเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังทำ กว่าจะมีลูกค้า กว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ กระบวนการต่างๆ เหล่านี้อาจจะทำให้เหนื่อยมากๆ แต่ถ้ามีความเชื่อมั่น สิ่งนี้จะพาไปถึงจุดที่วาดฝันเอาไว้ได้ สู้ต่อไป มีความพยายามและเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะทำอะไร ไม่ใช่แค่สตาร์ทอัพ หรือ SMEs ทุกอย่างใช้พื้นฐานเดียวกัน คือ “ธุรกิจ” เพราะฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้คือ ธุรกิจนั้นคืออะไร Revenue Model คืออะไร ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงพื้นฐานตรงนี้ได้ ดังนั้นการมีแค่ไอเดียที่ดี ไม่ได้บ่งบอกว่าธุรกิจนั้นจะสำเร็จอย่างน้อยต้องมีความเป็นรูปธรรมและแผนที่ชัดเจน บวกกับความเชื่อมั่นและเริ่มลงมือทำ
คำว่า “ธุรกิจบริการ” ก็คือการเอาใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าให้เป็นพิเศษ ดังนั้นสตาร์ทอัพไหนที่กำลังมองๆ หาธุรกิจด้านนี้ลองนำตัวอย่างของคุณเอ๊ดและคุณโอ๊ตไปเป็นตัวอย่างได้ แค่เริ่มจากเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ศึกษาพฤติกรรม เรียนรู้และต่อยอดพัฒนาจากโอกาสที่มองเห็น และที่สำคัญจะขาดไปไม่ได้เลย
: www.bellugg.com
: www.facebook.com/bellugg
บทความโดย
AIS The StartUp