บางครั้งจังหวะและช่วงเวลาที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่สำคัญเปรียบเหมือนเชฟที่ต้องการนำเสนอเมนูเลิศรส วิธีรับประทานแปลกใหม่แต่ลูกค้ายังไม่พร้อมรับอะไรใหม่ๆ เกิดเป็นความมึนงงสับสน และไม่ประทับใจ ไม่ต่างจากถ้าคุณมีไอเดียที่ดีมาก เทคโนโลยีใหม่มีทุกอย่างพร้อมให้ผู้ใช้ได้ทดลองแต่ดันมาไวเกินกว่าที่ผู้ใช้จะเข้าถึงและไม่เคยชิน สุดท้ายธุรกิจก็ต้องหยุดชะงักลงด้วยความน่าเสียดาย เพราะฉะนั้นถ้าคุณมาในช่วงเวลาที่ไม่ใช่และสิ่งที่คุณต้องการ คือการไปเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขาหรือคุณมาในจังหวะที่มีคู่แข่งเยอะเกินไป โอกาสที่ Startup ของคุณจะประสบความสำเร็จก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ

ปัญหาหลักๆ คือ การสร้างลูกค้าประจำไม่ได้ ถึงแม้คุณจะมียอดผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้ว เริ่มมีคนสมัครใช้บริการ หรือยอด Page View สูงแค่ไหน ก็อย่าพึ่งดีใจไป สิ่งเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ธุรกิจต้องการทั้งหมด เพราะสิ่งที่สำคัญ คือ คุณสามารถทำให้เกิดเป็นลูกค้าขาประจำได้หรือไม่ต่างหาก เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้คิดกับตัวเองเสมอว่า “อย่าหลงไปกับการวัดผลที่ลวงตาทั้งหลาย ที่ทำให้คุณคิดไปเองว่าผลิตภัณฑ์ของคุณกำลังมีลูกค้าที่ใช้งานอยู่จริง”

และให้ถามกับตัวเองว่า สุดท้ายแล้วเมื่อลูกค้าเข้ามาใช้งานทำอย่างไรให้พวกเขาต้องใช้งานต่อ ทำไมพวกเขาต้องมีแอปฯ นี้ติดไว้ในเครื่อง ถ้าสุดท้ายคุณไม่สามารถเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นลูกค้าประจำที่ใช้งานบริการของคุณได้จริงๆ แบบที่สามารถสร้างให้เกิดเป็นรายได้ให้กับบริษัท แม้มีคนดาวน์โหลดแอปฯเยอะแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี

หลายครั้ง Startup เก่งๆ หรือมีฝีมือ เมื่อต้องทำงานร่วมกับทีมงานมักประสบกับปัญหาต่างๆ ให้เลิกรากันไปและพับโปรเจกต์ลงอย่างน่าเสียดาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภายนอกที่รับมือต่อไปไม่ไหว แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือปัญหาภายใน ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอ...ในช่วงเริ่มแรกอาจยังไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะทุกคนยังสนุกกับการสร้างผลิตภัณฑ์ แต่เมื่อทำไปสักพัก ปัญหาต่างๆ ที่ทำเอาต้องผิดใจกันเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นก่อนจะเกิดปัญหาควรทำข้อตกลงกันไว้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ พยายามสร้างความเข้าใจ สร้างทีมเวิร์คให้เข้มแข็ง อธิบายรายละเอียดการอยู่ร่วมกันให้ชัดเจน อย่าคิดว่าเพื่อนกันยังไงก็ได้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ และแน่นอนว่าคิดต่างได้ ไม่เห็นด้วยได้แต่ต้องคอยเตือนกันไม่โทษกันไปมา เท่านี้ก็จะสามารถประคองให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้แล้ว