สำหรับวงการสตาร์ทอัพแล้ว นอกจากการประสบความสำเร็จจากธุรกิจของตัวเอง การได้เป็นพาร์ทเนอร์หรือได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ถือเป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันที่สตาร์ทอัพหลายคนอยากที่จะมีโอกาสดีๆ เช่นนั้น ที่ AIS The StartUp เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพได้เข้ามา Pitching เข้ามาพัฒนาฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเป็นอีกองค์กรที่พร้อมสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จและมีคุณภาพสูงสุด

AIS The StartUp มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวิศรุต เอื้ออานันท์ หัวหน้าส่วนงานบริหารช่องทางออนไลน์ ของเอไอเอส กล่าวว่า ปัจจุบันทาง AIS ได้มีการสนับสนุนสตาร์ทอัพในหลายๆ ด้าน รวมทั้งสตาร์ทอัพที่ผ่านการ Pitching จะได้รับการ Incubate การ Training จาก AIS The StartUp โดยตรง และเมื่อสตาร์ทอัพที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีแล้วนั้น ก็จะมีโอกาสได้ร่วมงานกับทาง AIS ที่ได้ว่าเป็นการต่อยอดทางธุรกิจที่น่าสนใจมากๆ ในขณะที่ธุรกิจสตาร์ทอัพได้เติบโตก้าวหน้าขึ้น และทาง AIS The StartUp ก็ได้พัฒนาขึ้นด้วยเช่นกัน

การทำงานกับ AIS The StartUp คือได้ทำงานกับเด็กรุ่นใหม่มีความสามารถมาก มีความคิดสร้างสรรค์ (Think outside the box) มีความรักมี Passion กับสิ่งที่ทำเต็มที่ ซึ่งทาง AIS The StartUp พร้อมสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีไฟ โดยไม่ปิดกั้นทางความคิด แต่เป็นการเสริมเติมแต่งให้อย่างลงตัวนั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ AIS The StartUp เล็งเห็นถึงความสำคัญและอยากให้สตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการเยอะๆ ซึ่งในปัจจุบัน AIS ถือว่าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีโครงการหลากหลายให้สตาร์ทอัพสายอื่นๆ เข้ามาเชื่อมต่อกันได้แบบไม่รู้จบ

กว่าจะมาเป็น myAIS Keyboard ไม่ง่ายอย่างที่คิด ทาง AIS ได้มีการคิดค้น ค้นหาพฤติกรรมผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน myAIS และพบว่า “แอปพลิเคชันนี้ผู้ใช้ไม่ได้เข้าใช้ทุกวัน แต่จะทำอย่างไรให้ myAIS อยู่ในชีวิตของผู้ใช้งาน” และค้นพบว่าผู้คนใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเล่นโซเชียลทุกวันหลากหลายแอปพลิเคชัน แต่ในขณะเดียวกันมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ คีย์บอร์ดในสมาร์ทโฟนที่ยังคงเป็นอันเดิมในทุกแอปฯ จึงเป็นที่มาของการพัฒนานำ myAIS ผนวกเข้ากับ Pastel Keyboard ให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้ได้ทุกวันเป็น Everyday used คำถามต่อมาคือ...

การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานนี้ นำมาสู่จุดเริ่มต้นของการ Cross Platform โดยที่ใช้คีย์บอร์ดเดียวกัน เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของคีย์บอร์ดมือถือสุดอัจฉริยะที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการ myAIS  ได้สะดวกมากยิ่งขึ้นจากแป้นพิมพ์บนมือถือ และไม่ต้องเสียเวลาสลับหน้าจอ  นับเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำคีย์บอร์ดบนโทรศัพท์เข้ามาสร้างช่องทางเข้าถึงการใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวกเลยทีเดียว

คุณเอกชัย เจริญพัฒนมงคล CEO & Co-Founder แห่ง Pastel Keyboard ได้บอกเล่าความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับทาง AIS ว่าตื่นเต้นมากที่รู้ว่าจะได้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองยังไม่เคยและดีใจที่ได้ร่วมงานกับทาง AIS เพราะ ทาง Pastel Keyboard มีจินตนามากมายที่ผุดขึ้นในหัวว่าโลกอีกใบที่ไม่เคยได้ลองทำมันจะออกมาเป็นอย่างไร โลกของการทำงานกับ Coporate จะเป็นในรูปแบบไหน ซึ่งทาง Pastel Keyboard ได้เตรียมพร้อม เครื่องมือต่างๆ เอาไว้แต่เหมือน ณ วันนี้ วันที่ต้องร่วมมือกับยักษ์ใหญ่อย่างจริงๆ จังๆ ที่เปรียบเสมือนการก้าวออกไปเผชิญกับประตูบานใหม่ เห็นโลกจริงๆ ที่เคยจินตนาการไว้ และอยากรู้ว่าทุกสิ่งที่ได้เตรียมมาจะไปได้ไกลแค่ไหนที่สำคัญคือการทำให้โลกใบนั้นดีขึ้นได้อย่างไร?

ทาง ดร.ศรีหทัย พราหมณี Head of AIS The StartUp กล่าวว่า การคัดเลือกทีมสตาร์ทอัพให้เข้ามาร่วมงานกัน ซึ่งวิธีการคัดเลือกทีมเข้ามาใน Portfolio นั้น มีดังนี้

1. Founder : ทาง Pastel Keyboard มีความแข็งแรงในเรื่องนี้มาก ทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ บวกกับ Passion ที่ต้องการผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับการลงมือทำ

2. Product : Pastel Keyboard มี Product ที่สามารถ Scale ได้ และรูปแบบ Business Model ที่สามารถต่อยอดกับทาง AIS ได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถ Scale ไปยังธุรกิจอื่นๆ ได้เช่นกัน

3. Market Opportunity : การพัฒนาฟังก์ชันให้ต่อยอดไปในเรื่องของการสร้างรายได้เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการริเริ่มคิดอะไรใหม่ๆ ที่ในสังคมยังไม่ค่อยมีคนทำและเป็นที่ยอมรับ แต่ Pastel Keyboard สามารถทำออกมาได้ดี

4. ความเป็นไปได้ของธุรกิจ : ซึ่ง Pastel Keyboard คือนักธุรกิจในยุค Disruption นักธุรกิจที่นำเอาเทคโนโลยีมาต่อยอดโดยใช้ดิจิทัลเพื่อสร้าง Revenue Model ใหม่ๆ ให้กับทั้งธุรกิจของตนเองและ Business Partner

ในมุมของธุรกิจ สิ่งแรกที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือโอกาสในการได้ร่วมมือทำธุรกิจกับ AIS เพื่อที่จะขยายกลุ่มลูกค้าไปที่ AIS อย่างที่ Pastel Keyboard ได้เข้าร่วมกับทีมออนไลน์ สร้างสรรค์ออกมาเป็น myAIS Keyboard ซึ่งนอกจากการได้ร่วมมือทางธุรกิจแล้ว สตาร์ทอัพยังมีโอกาสขยายฐานลูกค้าในประเทศไทย 40 กว่าล้านรายจาก AIS มากกว่านั้นคือที่ AIS เป็นพันธมิตรกับกลุ่ม Singtel Group ที่มี Footprint ทั่วโลกกว่า 700 ล้านราย นี่ถือเป็นโอกาสยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจให้กับสตาร์ทอัพ

ในมุมของฝั่งสตาร์ทอัพ การได้สร้างการรับรู้ , ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือของโปรดักส์ ทาง AIS พร้อมให้การสนับสนุนและช่วยเหลือให้สตาร์ทอัพเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่ว่าจะทั้งในและต่างประเทศ ว่าสตาร์ทอัพของคุณคือสตาร์ทอัพชั้นนำของประเทศไทย สิ่งที่สำคัญคือ การได้ทำ Consult กับทาง AIS ที่ให้มากกว่าความรู้เรื่องการบริหารคน การบริหารทีม หลักการ Scale และรู้ลึกถึงเส้นทางการธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ เปรียบเหมือน AIS ที่เป็นพี่ใหญ่ที่พร้อมบอกต่อ เล่าสู่กันฟังถึงเรื่องราวเส้นทางธุรกิจให้น้องได้รู้ เมื่อสตาร์ทอัพเติบโตเป็นนักธุรกิจเต็มรูปแบบ มีเรื่องอะไรบ้างที่สตาร์ทอัพต้องรู้ การบอกต่อประสบการณ์เหล่านี้นอกจากจะเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้แล้ว ยังถือเป็นการย่นเวลาให้กับสตาร์ทอัพได้เป็นอย่างดี

เมื่อก่อนเราอาจมีความเป็นตัวของตัวเองอยู่มาก และเราทุกคนล้วนเคยผ่านการปลอมตัวมานักต่อนักแล้ว ทุกคนต้องเคยปลอมตัวเป็นลูกค้า เพื่อให้รู้ว่าความต้องการของลูกค้าคืออะไร วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องปลอมตัวเป็น Coporate และต้องหัดคิดในมุม Coporate ว่าต้องทำอย่างไรให้ตอบโจทย์กับ Coporate มากขึ้น ข้อที่ท้าทายมากคือการทำให้กลุ่มลุกค้า ได้รับประโยชน์เหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิม เช่น การต้องทำให้กลุ่มลูกค้าของ Coporate ชื่นชอบบริการของ Pastel Keyboard เหมือนๆ กับตอนที่ Pastel Keyboard ทำให้กับลูกค้าของเราเอง

ความต่างระหว่าง Fashion คือแค่เห็นคนอื่นทำแล้วน่าทำ แต่ Passion คือการลงมือทำเพื่อความเชื่อ เชื่อว่าสิ่งที่ทำจะนำไปสู่ความสำเร็จ ถึงแม้วันนี้จะยังไงไม่สำเร็จ แต่ถ้าเราเชื่อเราจะทำทุกวิถีทางให้มันสำเร็จ หรือแก้ไขให้ดีที่สุด เพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุดต่อไป