เอไอเอส ประกาศผลสุดยอดทีมผู้ชนะเลิศ โครงการ “AIS The StartUp 2015” คว้าเงินรางวัล 1,000,000 บาท พร้อมร่วมโอกาสก้าวสู่ตลาดสากล ทันที!

ตามที่ทาง thumbsup ได้รายงานข่าวผู้ชนะเลิศโครงการ AIS the Startup 2014 ผ่านทางโซเชียลมีเดีย Facebook ในวัน 15 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา วันนี้เรามาสรุปข่าว และรางวัลของผู้ชนะเลิศกันอีกครั้ง และติตตามรายละเอียดสัมภาษณ์ทีมงานผู้ชนะในแต่ละหมวดกับทาง thumbsup เช่นเคย

เอไอเอสประกาศผล 3 สุดยอดทีม Tech Startup แห่งปี คว้ารางวัลชนะเลิศ “AIS The StartUp 2014” จาก 3 หมวดการแข่งขัน ทั้งOnline/Digital Content, Corporate Solution และ Social Business พร้อมต่อยอดพัฒนาผลงานออกสู่ตลาดจริง ภายใน 3-6 เดือน ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเอไอเอส พันธมิตรทั้งไทยและเทศ รวมทั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ “Innov8 Sparks” ร่วมผลักดันธุรกิจ Startup ก้าวสู่ระดับสากล ตามรอยรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จแบบข้ามพรมแดนมาแล้วทุกรุ่น พร้อมรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 40 ล้านบาท

นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส เปิดเผยว่า“สำหรับกิจกรรม AIS The StartUp 2014 ที่เปิดโอกาสให้เหล่านักพัฒนาที่มีผลิตภัณฑ์ในมือพร้อมที่จะต่อยอดธุรกิจ ส่งผลงานเข้าแข่งขันสร้างโมบายแอพพลิเคชั่นออกสู่ตลาด เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน นับว่าประสบความสำเร็จมากขึ้นทุกปี โดยปีนี้ มี Startup และผู้ประกอบการรายย่อย ให้การตอบรับสมัครเข้าร่วมกว่า 1,000 คน หรือ 202 ทีม ส่งผลงานในรูปแบบวีดิโอ พรีเซนเตชั่น เข้าร่วมแข่งขันทั้ง 3 หมวด แบ่งเป็นหมวด Online and Digital 76 ทีม, Corporate Solution 57 ทีม และ Social Business 69 ทีม โดยผลงานส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบ Product Prototype มีความหลากหลายทางคอนเทนต์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก บางผลิตภัณฑ์ปล่อยออกสู่ตลาดแล้วก็มี, บางผลิตภัณฑ์กำลังอยู่ในช่วงทดลองตลาด และบางผลิตภัณฑ์อยู่ในขั้นตอนพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งล้วนมีศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดเพื่อออกให้บริการสู่ตลาด โดยเบื้องต้น เอไอเอสได้ทำการคัดเลือก ผ่านเข้ารอบแรก ทั้งหมด 33 ทีม แบ่งเป็น 3 หมวดๆ ละ 11 ทีม

และวันนี้ ได้จัดกิจกรรมแข่งขันรอบสุดท้าย เพื่อให้ทั้ง 33 ทีมได้ Pitching นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากแวดวงไอทีและนักลงทุน อาทิ Edgar Hardless CEO แห่ง SingTel-Innov8, ผู้บริหารจาก KBank, Invent, Samsung, Software Park Thailand, SIPA, นักลงทุนจาก Jungle Ventureเป็นต้น โดยเกณฑ์การตัดสิน ประกอบด้วย 4 เรื่องหลักๆ คือ Team and Plan, Presentation, Business and Market, Product and service

ทั้ง 33 ทีม นับเป็น Startup Thailand ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ทำให้เราได้เห็นแนวคิด และมุมมองใหม่ๆ ที่แตกต่าง และมีศักยภาพในการพัฒนาออกสู่ตลาด ยกตัวอย่าง หมวด Online and Digital ส่วนใหญ่เป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับ Social Network, Shopping, Finance, Travel ส่วนหมวด Corporate Solution เน้นสนับสนุนการจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ Commerce, Logistice Tracking, Health และหมวด Social Business ถือเป็นเรื่องใหม่ที่เอไอเอสตั้งใจส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีไร้สายเพื่อสร้างสรรค์สังคม ก็ได้รับการตอบรับเกินคาด มีการส่งผลงานเข้าแข่งขันเป็นจำนวนมากและน่าสนใจไม่แพ้หมวดอื่นๆ อาทิ การสร้างคอมมูนิตี้เพื่อประโยชน์ทางสังคมในด้านต่างๆ, การสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์, การศึกษาการเรียนรู้ เป็นต้น”

ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขัน AIS The StartUp 2014 ในแต่ละหมวด ได้แก่

1. หมวด Online and Digital ได้แก่ ทีม GolfDigg (กอล์ฟดิกก์) เพื่อคอกอล์ฟ สำหรับการจองคิวเล่นกอล์ฟแบบ Last minute booking

2.cหมวด Corporate Solution ได้แก่ ทีม Nugrean (นักเรียน) เป็นโซลูชั่นส์ Tracking รถโรงเรียน

โดยทีมผู้ชนะเลิศแต่ละหมวด ได้รับเงินรางวัลทีมละ 200,000 บาท พร้อมโอกาสในการสร้างธุรกิจร่วมกับเอไอเอส และพันธมิตรทั้งไทยและเทศ รวมทั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ “Innov8 Sparks” ภายใต้กลุ่มสิงค์เทลที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 500 ล้านรายใน 23 ตลาดทั่วโลก ร่วมผลักดันธุรกิจ Startupก้าวสู่ระดับสากล, ร่วมเป็น iCP พัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดจริงกับเอไอเอส โดยได้รับการลดหย่อนกฏเกณฑ์ต่างๆ อาทิ ค่าแรกเข้า, รายได้ประกันขั้นต่ำ เป็นต้น, สื่อทางการตลาด มูลค่า 1,000,000 บาท และการสนับสนุนจากพันธมิตรอีกมากมาย ได้แก่ Microsoft Bizspark พร้อมทั้ง Windows Azure เครดิตมูลค่าUSD 60,000 ฟรีในปีแรก และ ลดราคาพิเศษ 50% ในปีที่ 2, Amazon Web Service (AWS) เครดิตมูลค่า USD3,000, พื้นที่ออฟฟิศทำงาน ฟรี 3 เดือน 2 ที่นั่ง จาก HUBBA, ส่วนลดราคาพิเศษพื้นที่ออฟฟิศทำงาน จาก Launchpad, ที่ปรึกษาด้านการลงทุน จาก Golden Gate Ventures และ Expara, สิทธิพิเศษจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติในการพิจารณาให้ทุนสนับสนุนโครงการนวัตกรรมเป็นกรณีพิเศษ และพิเศษสำหรับผู้ชนะในหมวด Social Business จะได้รับการสิทธิพิจารณาสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก Change Fusion

นอกจากนี้ ยังมี 3 รางวัลพิเศษจากพันธมิตร ประกอบด้วย

1. รางวัลพิเศษจาก KBank มอบให้กับทีม Page 365 ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ “KSME มีตังค์เยอะ!! ปี 2”
2. รางวัลพิเศษจาก AIS และ Samsung มอบให้กับทีม Snap n’ Bite ได้รับเงินสด 6,000 เหรียญสหรัฐ, เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมโครงการRegional Accelerate ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมโอกาสนำเสนอผลงานในวัน Demo Day ต่อหน้านักลงทุนชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก และผู้บริหารจากผู้ให้บริการเครือข่ายหลายหลายภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค พร้อมทั้งผู้บริหารจาก Samsung พร้อมค่าใช้จ่ายการเดินทาง (ค่าตั๋วเครื่องบิน + ที่พัก),อุปกรณ์Samsung handset และ Samsung wearable device, สื่อทางการตลาด มูลค่า 1,000,000 บาทและสิทธิการเป็นสมาชิก Innov8 Sparks (รับสิทธิประโยชน์ เช่น การสนับสนุน Co-working space ในต่างประเทศ)พร้อมโอกาสที่จะได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดกับ Samsung และผู้ให้บริการภายใต้กลุ่มสิงค์เทค
3. รางวัลพิเศษจาก AIS และ Innov8 Sparks มอบให้กับทีม Nugrean ได้รับ Booth space ใน Innov8 Spark Pavilion และตั๋วเข้าร่วมงาน Echelon 2014 ประเทศสิงคโปร์ พร้อมตั๋วเครื่องบินและ ที่พัก

“โดยแผนการสนับสนุนทีมผู้ชนะต่อไป คือ การบ่มเพาะพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวางแผนทางธุรกิจการตลาด เพื่อ Scale to Market ออกสู่ตลาดจริง ภายในเวลา 3-6 เดือน อย่างไรก็ตาม ผลงานอื่นๆ ของทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน เอไอเอสยังเปิดกว้าง และพร้อมให้การสนับสนุนตลอดเวลา ทุกทีมสามารถนำผลิตภัณฑ์เข้ามาพัฒนาต่อยอดร่วมกับเรา เพื่อก้าวสู่การเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมทำธุรกิจกับเอไอเอสได้ในอนาคต

ทั้งนี้ จากการจัดกิจกรรม AIS The StartUp 2014 ทำให้พบว่า ประเทศไทยเต็มไปด้วยนักพัฒนา และผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ ที่มีความคิดสร้างสรรค์และความกล้าที่จะเริ่มต้นและลองทำสิ่งใหม่ๆ ซึ่งกิจกรรมนี้ ถือเป็นอีกแรงผลักดันสำคัญในการปลุกกระแสและ เปิดเวทีให้คนเหล่านี้ได้แสดงไอเดียและความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประเทศไทยก้าวสู่ยุค 3G อย่างเต็มรูปแบบ เกิดความต้องการใช้งาน DATA และแอพพลิเคชั่นของผู้ใช้มือถืออีกจำนวนมหาศาล จึงเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจให้กับ Startup Thailand กลุ่มนักพัฒนาได้อย่างไร้ขีดจำกัด เอไอเอสจึงขอเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมกลุ่ม Tech StartUp ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นายปรัธนาสรุป