3 Trends 2025 ที่ผู้ประกอบการ StartUP ไม่ตามระวังตกขบวน!

ความผันผวนของธุรกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล ที่ผู้ประกอบการ StartUp ต้องรีบตามให้ทัน AIS The StartUp รวบรวมเทรนด์ที่น่าสนใจในปี 2025 ที่หลาย ๆ ธุรกิจต้องรีบปรับตัวพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง จะมีเทรนด์อะไรบ้างไปดูกัน

1. Manufacturing and Supply Chain Tech

เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ความแม่นยำและความยั่งยืนในกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อาหาร เทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาช่วย Startup Thailand ในการลดต้นทุนและการสูญเสียทรัพยากรโดยไม่จำเป็น ช่วยควบคุมและปรับปรุงทุกขั้นตอน ตั้งแต่การมองหาวัตถุดิบจนไปถึงการส่งสินค้า ตัวอย่างของ Manufacturing and Supply Chain Tech ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ Startup นำไปปรับและพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้ ที่ช่วยให้ธุรกิจ Transformation ได้ยั่งยืน

AI Literacy & Responsible AI

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ช่วยให้ผู้ประกอบ Startup บริหารธุรกิจในการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว รวบรวมสถิติต่าง ๆ เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แต่ AI ก็มาพร้อมภัยอันตรายที่ผู้ประกอบการต้องระวัง Scammer จากข้อมูลจากการประมวลผลที่ผิดพลาด ผู้ประกอบการต้องศึกษาและใช้งานอย่างระมัดระวังและมีความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารธุรกิจดำเนินไปได้ถูกต้อง Startup Thailand จะต้องมีทักษะอะไรบ้างถึงจะทำให้ธุรกิจเติบโตในยุคนี้

AI Literacy คือ ความฉลาดรู้ทาง AI ที่ต้องรู้ Startup ต้องศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟังก์ชันการทำงานของ AI เพื่อการใช้งานอย่างสร้างสรรค์และจริยธรรมการใช้งาน

Responsible AI แนวทางการพัฒนาการใช้งาน AI ให้เป็นไปตามจริยธรรม สังคม และกฎหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจาก AI และรับผิดชอบต่อสังคม

2. Sustainability กับโอกาสการลงทุน

หลาย ๆ ธุรกิจและ Startup Thailand หันมาใส่ใจ ESG (Environmental, Social, Governance) ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลผู้ประกอบการ Startup Thailand ต้องเร่งปรับตัวธุรกิจของตัวเองให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคและ Solution ใหม่ ๆ ปรับปรุงและกลยุทธ์ของธุรกิจ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การดำเนินงานอย่างยั่งยืน ตรวจสอบได้ ตามแนวทางของ ESG

Climate technology ธุรกิจแบบไหนที่น่าจับตามองในปี 2025

กลุ่มธุรกิจ Climate technology มาแรงมาก ๆ ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา คือ นวัตกรรมที่สร้างสรรค์มาเพื่อลดผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เช่น Food Technology Geen materials พลังงานธรรมชาติ เป็นต้น เป็นที่กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองอย่างมากในปี 2025

1. Renewable Energy Tech เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน

เพิ่มโอกาสการเข้าถึงพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Startup ที่จับกับเทรนด์ของพลังงานเข้ากับโซลูชัน พัฒนาโซลูชันด้านพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวล เช่น แผงโซลาร์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง กังหันลมขนาดเล็ก หรือระบบพลังงานสะอาดที่ใช้งานได้แม้ในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ในเมืองเพื่อลดการใช้พลังงานได้อีกด้วย

2. Sustainable Agriculture and Food Tech นวัตกรรมเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน

กลุ่มธุรกิจที่ผู้ประการสตาร์ทอัพให้ความสนใจและนำมาพัฒนาต่อยอด คือการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรที่ใช้น้ำน้อยลง ปรับใช้ระบบการเพาะปลูกแบบแนวตั้ง หรือใช้ AI และ IoT ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหาร และการวิจัยและพัฒนาเนื้อจากพืชและโปรตีนทางเลือกอีกด้วย ซึ่งกลุ่มธุรกิจประเภทนี้จะช่วยลดผลกระทบของเกษตรกรรมจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

3. Sustainable Transportation

ระบบขนส่งสีเขียว นำจักรยานยนต์ไฟฟ้า, รถบรรทุกไฟฟ้า, รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า (EV) เข้ามาช่วยในระบบขนส่งพลังงานสะอาด ที่เข้าถึงง่ายและสะดวก พัฒนาอย่างต่อเนื้อเพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเทรนด์ขนส่งมาแรงและน่าจับตามองมาก ๆ ในระบบขนส่งของไทย มีหลาย ๆ Startup Thailand เริ่มทำแล้ว

4. Environmental Data and Monitoring

กลุ่ม Startup ที่พัฒนาโซลูชันแพลตฟอร์มและเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจวัดข้อมูลสิ่งแวดล้อมได้แบบเรียลไทม์ เช่น คุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ หรือข้อมูลด้านภูมิอากาศ และใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ

5. Carbon Capture and Utilization การดักจับและใช้ประโยชน์จากคาร์บอน

พัฒนาโซลูชันเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนจากแหล่งอุตสาหกรรมและแหล่งอื่น ๆ นำไปใช้ในกระบวนการผลิตอื่น ๆ เช่น การผลิตวัสดุก่อสร้าง หรือการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงสะอาด สตาร์ทอัพกลุ่มนี้จะช่วยเป็นตัวกลางในการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิ และเป็นตัวช่วยในการบรรลุเป้าหมายด้านคาร์บอนเป็นศูนย์

3. Health and Wellness

เทรนด์ธุรกิจเกี่ยวกับ Health and Wellness เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่อย่างมีประสิทธิภาพมาแรงไม่มีตก การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาอยู่ตลอด รวมถึงโซลูชันเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ อีกแนวโน้มที่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพต้องจับมุมตรงนี้นำมาพัฒนาต่อ

เทคโนโลยีสุขภาพ (Health Tech)

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีดูแลสุขภาพ พัฒนาแอปพลิเคชันออกกำลังกายเครื่องมือวัดชีพจร รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับการดูแลสุขภาพส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น

ปรึกษาและดูแลสุขภาพแบบส่วนตัว (Personalized Health)

การนำ AI และ Machine Learning มาพัฒนาโปรแกรมดูแลสุขภาพที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เช่น การให้คำแนะนำด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย หรือการดูแลสุขภาพจิตตามความต้องการเฉพาะบุคคล

ดูแลสุขภาพใจ (Mental Health Tech)

พัฒนาแอปและแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชันที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิต การทำแบบทดสอบสุขภาพจิตและให้คำแนะนำปรึกษาออนไลน์

ในปี 2025 เทรนด์สำคัญที่ผู้ประกอบการ Startup Thailand ต้องจับตามองประกอบไปด้วย Manufacturing and Supply Chain Tech, Sustainability และ Health and Wellness ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในธุรกิจ AIS The StartUp เป็นพาร์ทเนอร์ที่พร้อมสนับสนุนและผลักดันให้ธุรกิจของผู้ประกอบการ Startup เติบโตอย่างมั่นคง ด้วยเทคโนโลยีและพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยผู้ประกอบการ Startup Thailand ปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

---

ที่มา : deloitte, weforum, techsauce, THE SECRET SAUCE