ผสานพลังความเร็ว 4G และ 5G ด้วยเทคโนโลยี EN-DC

พูดถึงเทคโนโลยี 5G แล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้กันดีถึงประสิทธิภาพความเร็ว ที่ช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือการเชื่อมต่อรูปแบบอื่น ๆ มีความรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งได้เคยบอกเล่าถึงประโยชน์กันไปแล้วว่า 5G คืออะไร? และดียังไง และความเซอร์ไพรส์ล่าสุดที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบกัน นั่นก็คือ เราสามารถรวมประสิทธิภาพของคลื่น 4G และ 5G เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้มีคลื่นความถี่ที่กว้างขึ้น เพิ่มความเร็วแรงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า EN-DC (EUTRAN NEW radio Dual Connectivity) เห็นชื่อแล้วหลายคนอาจจะยังไม่คุ้น วันนี้เลยจะพามาทำความรู้จักว่าเจ้าเทคโนโลยี EN-DC นั้นคืออะไร?

EN-DC นั้นคืออะไร

เทคโนโลยี EN-DC คืออะไร? มาทำความรู้จักกัน!

EN-DC หรือ EUTRAN NEW radio Dual Connectivity เป็นเทคโนโลยีมาตรฐานใหม่แห่งยุค 5G ที่เครือข่ายและสมาร์ทโฟน สามารถรวมประสิทธิภาพจากทุกคลื่นความถี่ โดยรวมความเร็วของทั้ง 4G และ 5G เข้าไว้ด้วยกันได้ ทำให้เกิดความเร็วสูงสุด ยิ่งมีคลื่นความถี่กว้าง ยิ่งทำให้เกิดความเร็วสูงสุด ไม่สะดุดต่อการใช้งาน

AIS 5G

อยากใช้ EN-DC ให้ได้ประสิทธิภาพ ทำไมต้อง AIS 5G

ในปัจจุบันทุกเครือข่ายโทรศัพท์ในประเทศไทย ได้เปิดให้บริการ 5G กันเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเราอยากใช้เทคโนโลยี EN-DC ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด บอกเลยว่า AIS 5G ถือเป็นตัวเลือกที่ต้องจับตามอง ด้วยความที่เอไอเอสเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด และยังถือครองคลื่นความถี่ 4G และ 5G มากที่สุดในประเทศไทย ประกอบด้วย

คลื่น จำนวน
คลื่น 900 MHz 20 MHz
คลื่น 1800 MHz 40 MHz
คลื่น 2100 MHz 30 MHz
คลื่น 700 MHz 30 MHz
คลื่น 2600 MHz 100 MHz
คลื่น 26 GHz 1200 MHz
รวม 1420 MHz

จากผลรวมที่เอไอเอส มีจำนวนคลื่นถึง 1420 MHZ ซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย และด้วยจำนวนคลื่นความถี่ที่มากที่สุดแบบนี้ จึงทำให้การใช้งาน 4G+5G รวมกัน ยิ่งได้ประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย


แล้ว EN-DC ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นยังไง?

อย่างแรกที่ต้องบอกเลยก็คือความเร็วของเครือข่าย ทั้งสัญญาณและอินเทอร์เน็ต รับรองว่าชีวิตคุณจะติดสปีดขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการดูวิดีโอ หนัง ซีรีส์ เล่นเกม ทำงานผ่านออนไลน์ หรือแม้กระทั่งการทำธุรกรรมต่าง ๆ บนออนไลน์ ด้วยการเสริมความเร็วผ่าน EN-DC แบบนี้ จะช่วยให้คุณได้สะดวก สบายอีกขั้นแน่นอน หรือใครที่เป็นสายท่องเที่ยว ก็ไม่ต้องกลัวว่าไปไหนแล้วสัญญาณจะไม่ค่อยมี หรือเน็ตช้า โดยเฉพาะผู้ใช้เครือข่ายเอไอเอส สบายใจในจุดนี้ได้เลย เพราะเรามีคลื่นความถี่เยอะมากที่สุดในประเทศไทย คลื่นสัญญาณจึงมีความกว้างขวางมากกว่า และเมื่อเราใช้งาน EN-DC ผ่านคลื่นความถี่ของเอไอเอส ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์ความเร็ว แรง ที่สุด การใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณจะไหลลื่น เติมเต็มสปีดในทุก ๆ ที่ เพราะเอไอเอสมีทั้งความครอบคลุมและความเร็วสูงสุดนั่นเอง

แล้ว EN-DC ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นยังไง

จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า En-DC มีข้อดียังไงบ้าง หากจะให้ทุกคนเข้าใจและเห็นภาพง่ายมากขึ้น ก็อาจจะลองเปรียบเทียบระดับความเร็วของสัญญาณกับความเร็วของพาหนะ สมมติว่าถ้า 4G มีความเร็วเทียบเท่ากับรถยนต์ 5G อาจจะมีความเร็วที่เหนือกว่าเสมือนเครื่องบิน แต่เมื่อ EN-DC ได้นำความเร็วของ 4G และ 5G มาใช้ร่วมกัน ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพ บวกกับเมื่อใช้งานผ่าน AIS 5G ที่มีจำนวนคลื่นมากที่สุด ก็ยิ่งทำให้ความเร็วพุ่งเป็นจรวด เปิดประสบการณ์ใช้งานแบบใหม่ที่เร็ว แรง กว่าเดิมแน่นอน

สมาร์ทโฟนรุ่นไหน ที่รองรับ EN-DC บ้าง

สมาร์ทโฟนรุ่นไหน ที่รองรับ EN-DC บ้าง?

ทั้งนี้ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G และเทคโนโลยี EN-DC แพร่หลายอยู่ในตลาดหลายรุ่น เช่น iPhone 12, Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G, Huawei P40 Pro 5G, OPPO Find X2 Pro 5G และ Vivo V20 Pro และกำลังจะทยอยออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

หากใครสนใจสมาร์ทโฟนที่สเปก เร็ว แรง โดนใจ แล้วยังรองรับ EN-DC แล้วล่ะก็ คลิกที่ลิงก์ด้านล่างได้เลย

ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตน่าจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับ 5G พร้อมทั้งเทคโนโลยี EN-DC เพิ่มขึ้นอีกแน่ ๆ ใครที่กำลังเลือกซื้อสมาร์ทโฟน 5G ก็ลองเลือกเผื่อการรองรับเทคโนโลยี EN-DC เข้าไปด้วย บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการใช้งานแน่นอน หากใครยังไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี? ตามมาดูที่ ปักธงสมาร์ทโฟน 5G ที่คุณไม่ควรพลาด! กันก่อนได้ ที่สำคัญเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ต้องเลือกเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุดอย่าง AIS 5G เพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ